ยอดเก็บกระทงกทม.403,235 ใบ
กทม. สรุปสถิติยอดจัดเก็บกระทง 403,235 ใบพบปริมาณ ลดลงจากปี 2563
(20 พ.ย.64) พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต ได้จัดเก็บกระทงที่ประชาชนนำมาลอยเนื่องในเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2564 เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อม จัดเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา และสวนสาธารณะที่เปิดให้ประชาชนได้ลอยกระทง สำนักการระบายน้ำ จัดเก็บในคลองและบึงรับน้ำที่รับผิดชอบ และ 50 สำนักงานเขต จัดเก็บในบริเวณพื้นที่ที่มีการจัดงานลอยกระทง โดยเริ่มจัดเก็บกระทงตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 19 พ.ย.64 แล้วเสร็จก่อนเวลา 05.00 น. ของวันนี้ (20 พ.ย.64) รวมจัดเก็บกระทงได้จำนวนทั้งสิ้น 403,235 ใบ เป็นกระทงที่จากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่าย จำนวน 388,954 ใบ คิดเป็นร้อยละ 96.46 และกระทงที่ทำจากโฟม จำนวน 14,281 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.54
สำหรับในเทศกาลลอยกระทง ปี 2564 จัดเก็บกระทงได้ลดลงกว่าปี 2563 จำนวน 89,302 ใบ (ปี 2563 จัดเก็บกระทงได้จำนวน 492,537 ใบ) หรือคิดเป็นร้อยละ 18.13 โดยเป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่ายเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 96.40 เป็น 96.46 เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนกระทงโฟมลดลงจากร้อยละ 3.60 เป็น 3.54 เมื่อเทียบกับปี 2563
พื้นที่เขตที่มีปริมาณกระทงมากที่สุด คือ เขตจตุจักร จำนวน 12,595 ใบ ส่วนเขตที่มีปริมาณกระทงน้อยที่สุด คือ เขตบางซื่อ จำนวน 99 ใบ เขตที่มีจำนวนกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมากที่สุด คือ เขตจตุจักร จำนวน 12,240 ใบ และเขตที่จำนวนกระทงโฟมมากที่สุด คือ เขตคลองสามวา จำนวน 470 ใบ โดยมีเขตที่ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ 100 % จำนวน 7 เขต ประกอบด้วย เขตพระนคร เขตบางกอกใหญ่ เขตบางแค เขตมีนบุรี เขตประเวศ เขตทวีวัฒนา และเขตสาทร
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการคัดแยกกระทงแล้ว กรุงเทพมหานครจะนำกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติส่งเข้าโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ส่วนกระทงโฟมจะนำไปกำจัดโดยการฝังกลบอย่างถูกวิธีที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช สายไหม และหนองแขม หรือเผาเพื่อผลิตไฟฟ้าที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news