“อนุทิน” ยันปรับมาตรการโควิดเป็นระดับ 4 เตรียมชะลอ Test&Go ถึง 15 ม.ค. เผยขอความเห็นใจจากทุกฝ่าย ย้ำ “บุคลากรไม่ใช่เครื่องจักร”
วันนี้ (6 ม.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังรับมอบหน้ากาก N95 จำนวน 1 ล้านชิ้น จากบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ระบุว่า ขณะนี้ สธ.มีการปรับมาตรการควบคุมโรคจากเดิมระดับ 3 เป็นมาตรการระดับ 4 แล้ว โดยต่อจากนี้จะต้องใช้เวลาในการสังเกตจำนวนของผู้ป่วย เนื่องจากจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนตามที่คาดการณ์ไว้ โดยขณะนี้ก็มีการเตรียมความพร้อม เนื่องจากต้องจับตาดูว่ามีผู้ป่วยที่อาการหนักหรือไม่ แต่หวังว่าจะไม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
สำหรับความแออัดในรพ. ยืนยันว่ามีการปฏิบัติตามมาตรฐาน และให้เป็นไปตามการตัดสินใจของแพทย์ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ขอให้ Home isolation เพื่อเก็บรพ.ไว้สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ระรอก 5 อย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น ยอมรับว่ากำลังพยายามควบคุมสถานการณ์ คิดไว้แล้วว่าจะเกิดกรณีดังกล่าว โดยทำทุกทางเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว ทั้งนี้ การยกระดับมาตรการเป็นระดับ 4 ขอให้คำนึงถึงสุขภาพเป็นหลัก สธ.มีการพยายามอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่นอนว่าจะมีการล็อกดาวน์อีกครั้งหรือไม่ แต่ทางกรมควบคุมโรคอาจเสนอขอพิจารณาปรับพื้นที่เป็นสีส้ม
สำหรับ Test&Go เบื้องต้นมีการหารือกับส่วนเกี่ยวข้อง และเสนอว่าจะชะลอไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 65 ส่วนประเด็นที่ไม่รับนักท่องเที่ยวเข้ารักษาในรพ. เนื่องจากประกันไม่ครอบคลุม และไม่อยากนำภาษีของคนไทยไปจ่ายให้ชาวต่างชาติที่มีการหละหลวมเลี่ยงบาลี
ทั้งนี้ อยากให้เน้นถึงคุณภาพของท่องเที่ยวมากกว่าปริมาณ เพราะหลายรายไม่เคารพมาตรการ โดยใช้เอกสารปลอมหรือประกันที่ด้อยคุณภาพ
ด้านนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การยกระดับสายด่วน 1330 เพื่อเป็นการจัดกลุ่มผู้ป่วยเข้าสู่ระบบ Home isolation ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว สายเข้าพร้อมกันได้ถึง 3,000 สาย โดยภายใน 6 ชม. จะนำ ผู้ป่วยเข้าระบบทั้งหมด ยืนยันว่าระบบมีความพร้อม
อย่างไรก็ตามระบบ Home isolation จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลเช่นเดียวกันกับที่รพ. ขอให้ประชาชนมั่นใจ นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอความเห็นใจจากทุกฝ่าย ด้านสธ.มีจำนวนบุคลากรน้อย และทำงานหนักมาสองปีแล้ว สำหรับการระบาดระลอกใหม่นี้ ขอให้ช่วยพิจารณาด้วยว่ามีจำเป็นหากต้องมาตรการต่างๆอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า “บุคลากรไม่ใช่เครื่องจักร”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews