Home
|
ทั่วไป

สบส.สอบคลินิกอวดอ้างใช้หินวิเศษรักษามะเร็ง-โควิด19

Featured Image
กรม สบส.ลงตรวจคลินิกแผนไทยอวดอ้างใช้หินวิเศษ รักษาได้ตั้งแต่มะเร็งยันกันโควิด 19 พบความผิดฐานโฆษณาโอ้อวดเกินจริง พร้อมเตรียมขยายผลหากพบว่ามีการกระทำผิดสั่งฟันโทษทันที

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกการแพทย์แผนไทยดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในย่านพุทธมณฑลสาย 3 กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อถึงแพทย์รายหนึ่งซึ่งอวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถใช้หินศิลาบำบัดที่ตัวเองคิดค้นและวิจัยขึ้น ดูดเอาเชื้อร้ายอย่างมะเร็งออกมาทางน้ำเหลือง อุจจาระ ปัสสาวะ สามารถรักษาได้ทุกโรค รวมถึงป้องกันโรคโควิด 19 ได้อีกด้วยนั้น

จากการตรวจสอบข้อมูล คลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ลงไปตรวจสอบในวันนี้ กลับพบว่าคลินิกดังกล่าวปิดทำการ จึงได้ออกคำสั่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำที่กรม สบส.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งในเบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อหากับทางคลินิก ในข้อหาการกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานโฆษณาเป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินความจริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท นับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณา หรือประกาศ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว และจะมีการตรวจสอบถึงมาตรฐานการบริการ และตัวผู้ให้บริการว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ หากพบว่าผู้ให้บริการมิใช่แพทย์ (หมอเถื่อน) ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้งตัวหมอเถื่อนและผู้ดำเนินการ พร้อมส่งต่อให้สภาแพทย์แผนไทยตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพต่อไป

ทั้งนี้ สบส. ย้ำเตือนประชาชนให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกรับบริการรักษาพยาบาลไม่ว่ากรณีใดก็ตามขอให้ประชาชนเลือกรับบริการจากแพทย์ และสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube