Home
|
ทั่วไป

กทม.เตรียมรับมือภัยแล้งในฤดูร้อนกลาง ก.พ.นี้

Featured Image
“ผู้ว่าฯกทม.” ลงพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ 6 ด้าน พร้อมวางมาตรการช่วยเหลือปชช.-เกษตรกร ก่อนเข้าฤดูร้อนกลาง ก.พ.นี้

 

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาภัยแล้งที่จะตามมา ดังนั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักและสำนักงานเขตเตรียมแผนรองรับและติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่

1. ด้านการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค

2. ด้านการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร

3. ด้านปัญหาน้ำเค็มเนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง

4. ด้านถนนทรุดตัวรวมทั้งคลองสายต่าง ๆ

5. ด้านการสาธารณสุข (โรคระบาด)

6. ด้านเพลิงไหม้อาคารและเพลิงไหม้หญ้า เพื่อเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย การจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งได้ทันท่วงที

 

ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำกรุงเทพมหานครได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ในการติดตามสถานการณ์น้ำ ปริมาณน้ำในเขื่อน ปริมาณการระบายน้ำ พร้อมทั้งการเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภค บริโภค และด้านการเกษตร ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเล็กน้อย

 

จากการรายงานของสำนักงานเขตมายังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพบว่ามีเกษตรกรในพื้นที่เขตทุ่งครุ จำนวน 369 ครัวเรือน เริ่มประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งสำนักงานเขตทุ่งครุได้แนะนำเกษตรกรจัดหาภาชนะกักเก็บน้ำฝนไว้สำรองใช้ และใช้น้ำประปาในการเกษตรและการปศุสัตว์ และอื่น ๆ พร้อมทั้งได้จัดเตรียมรถบรรทุกน้ำในกรณีเร่งด่วนสำหรับบริการน้ำจืดให้กับเกษตรกรที่มีความจำเป็น

 

สำหรับพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ สำนักการระบายน้ำได้ขุดลอกคลองสายรองเพื่อผันน้ำจากคลองสายหลักเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่เขตคลองสามวาได้มีการขุดลอกคลองแปดเพื่อให้น้ำสามารถไหลเข้ามาถึงคลองสี่ตะวันออกได้มากขึ้น หรือในพื้นที่เขตลาดกระบังก็มีการขุดลอกคลองเพื่อให้น้ำจากคลองลำปลาทิวสามารถไหลเข้าสู่คลองลำพะอง คลองกระทุ่มล้ม และคลองลำตาอินได้ รวมถึงยังมีการทำทำนบชั่วคราวพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองตาสอน เพื่อสูบน้ำจากคลองประเวศบุรีรมย์ไปให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งแนวทางนี้จะเป็นแนวทางที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ขอรับน้ำที่ผ่านการบำบัดได้ทั้ง 8 แห่ง ไปใช้ในกิจกรรมเพื่อปัญหาการขาดแคลนน้ำและช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่มีความจเป้นต้องใช้น้ำในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างถนน ล้างตลาด ล้างเครื่องจักรภายในโรงงาน กรุงเทพมหานครได้มีการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงควบคุมคุณภาพน้ำขนาดใหญ่ ทั้ง 8 แห่ง รวมปริมาณน้ำที่ผ่านการบำบัดทั้งสิ้น 815,000 ลบ.ม./วัน ประกอบด้วย โรงควบคุมคุณภาพน้ำสี่พระยา ,โรงควบคุมคุณภาพน้ำรัตนโกสินทร์,โรงควบคุมคุณภาพน้ำช่องนนทรี, โรงควบคุมคุณภาพน้ำหนองแขม, โรงควบคุมคุณภาพน้ำทุ่งครุ, โรงควบคุมคุณภาพน้ำจตุจักร, โรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง และศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube