สธ.รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยคนละ 4 เข็ม
สธ. เดินหน้ารณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด 19 อย่างน้อยคนละ 4 เข็ม เพิ่มภูมิคุ้มกัน เพิ่มความปลอดภัย ตั้งเป้าทุกจังหวัดฉีดรวมอย่างน้อย 2 ล้านโดส ภายใน ธ.ค.65
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังร่วมกิจกรรมอสม. เชียงใหม่ รวมพลังกายใจ นำประชาชนไทยรับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นว่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวหลักที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพื้นที่มากขึ้นในช่วงฤดูหนาวนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2565 จึงมีการจัดกิจกรรม “ชาวเชียงใหม่ฮ่วมใจ๋ฉีดวัคซีนโควิด เข็มกระตุ้น” โดยเปิดหน่วยฉีดทั้งเชิงรับในโรงพยาบาล และบริการหน่วยฉีดวัคซีนเชิงรุก (mobile vaccine unit) ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ชุมชน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และโรงเรียน พร้อมทั้งให้ อสม.เป็นเครือข่ายช่วยประชาสัมพันธ์กระตุ้นประชาชนให้เข้ารับวัคซีน สำหรับกิจกรรมรณรงค์ฉีดวัคซีนในวันนี้ จะช่วยสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีนโควิด 19 อย่างน้อยคนละ 4 เข็ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อช่วยลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค คณะผู้บริหารกล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4-10 ธันวาคม 2565 พบผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 3,961 ราย เฉลี่ย 565 รายต่อวัน แม้ผู้ป่วยรายใหม่ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้นเป็น 649 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 3 จำนวนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 385 ราย หรือร้อยละ 10 นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตรวม 107 ราย เฉลี่ย 15 รายต่อวัน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ โดยพบว่ากลุ่ม 608 เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 สูงสุดถึงร้อยละ 97 ทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย และ ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ขอย้ำมาตรการที่สำคัญสำหรับประชาชนทั่วไปและกลุ่ม 608 ขอให้ไปรับวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือน ขอให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มถัดไป เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยหนัก และลดการเสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 โดยไม่ต้องรอวัคซีนรุ่นใหม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews