“ไทยศรีวิไลย์” บุก บขส. ตรัง พบปัญหาคนขับรถตู้ยังไม่พร้อมเปลี่ยนเป็นไมโครบัส และปัญหานักท่องเที่ยวมาเมืองตรังน้อย
ร้อง 2 กระทรวง ‘คมนาคม – การท่องเที่ยวฯ ’ รีบหารือแก้ไขก่อนยุบสภา พร้อมย้ำนโยบายอัดฉีดรากหญ้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ 150,000 บาท/ครัวเรือน และชูนโยบายยางแผ่นดิบ ไม่น้อยกว่า 80 บาท/กก ราคาปาล์มทะลาย 7.5 บาท/กก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 7 กุมภาพันธ์ 2566 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา-พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค,นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค
,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกพรรคฯ นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,ดร.อนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค ลงพื้น จ.ตรัง เพื่อพบปะและประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ให้กับประชาชน เพื่อพิจารณาในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้
โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนและคณะ ได้ลงพบปะกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดตรัง โดยเริ่มต้นจาก สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตรัง (บขส.ตรัง) ได้พูดคุยกับ พนักงานขับรถทัวร์ วินมอเตอร์ไซด์ ผู้โดยสาร คนขับรถตู้รับจ้าง ซึ่งแทบทั้งหมดได้พูดถึงปัญหาเรื่อง นักท่องเที่ยวน้อยมาก
ทั้งๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่มีชื่อเสียง เช่น ย่านตึกเก่าเมืองตรังภายในเขตเทศบาลนครตรัง หาดปากเมง สถานีรถไฟกันตัง ร้านอาหารที่มีอยู่มากมายที่เชิญชวนให้คนทั่วไปมากิน 9 มื้อ เหมือนกับคนเมืองตรัง มีทะเลสวย สะอาดมาก มีเกาะที่มีชื่อเสียงถึง 7 เกาะ อาทิ เกาะกระดาน เกาะเหลาเหลียง เกาะเชือก เกาะไหง เกาะมุก เกาะลิบง เกาะตะเกียง เป็นต้น ทำให้ขาดรายได้มาเพิ่มเติมเพื่อหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในจังหวัด
โดยเฉพาะคนขับรถตู้นอกจากรายได้ลดน้อยลงแล้ว ยังพบปัญหาที่มาจากทางกระทรวงคมนาคม ที่กำหนดให้รถตู้จ้างสาธารณะ อายุเกิน 10 ปี เปลี่ยนเป็นไมโครบัส ซึ่งตอนนี้คนขับรถตู้รับจ้างเดือดร้อนจึงขยายเป็น 15 ปี แต่ กระทรวงคมนาคมให้เพียง 12 ปี ซึ่งตอนนี้ครบกำหนดแล้ว ทำให้คนขับรถตู้เกิดอาการเคว้ง ไม่ทราบอนาคตว่าเป็นอย่างไร กลัวว่าขับๆไป จะกลายเป็นคนผิดกฎหมาย ทั้งๆที่พวกเขาต้องการทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อจะได้หาเงินอย่างสบายใจ ไม่ต้องมาระแวงเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเย็นได้เดินตลาดห้องเย็นควนปริง และ ตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์ ซึ่งบรรยากาศการจับจ่ายซื้อของประชาชนก็เป็นไปตามสภาพในปัจจุบัน ซึ่งแตกต่างในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีความคึกคักทั้งคนซื้อและคนขาย เพราะคนในจังหวัดตรังมีกำลังซื้อน้อย มีหนี้สินแทบจะทุกครัวเรือน
ดังนั้น นโยบายที่สำคัญของพรรคไทยศรีวิไลย์ คือ นโยบายอัดฉีดรากหญ้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ 150,000 บาท/ครัวเรือน ซึ่งจะช่วยกำลังซื้อภายในประเทศได้มาก ส่วนด้านเกษตรกรรม คนตรังทำสวนยาง ปาล์ม ฯ ซึ่งราคายางแผ่นดิบแค่ 45 บาท/กก ราคาปาล์ม แค่ 4.5 บาท/กก ราคาไม่ดีเพราะต้นทุนปลูกยาง ปาล์ม อยู่ที่ค่าแรงงาน กับ ปุ๋ย เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นพรรคไทยศรีวิไลย์ มีนโยบายกำหนดราคาโรงงานซื้อกับเกษตรกรโดยตรง
โดยราคายางแผ่นดิบ ไม่น้อยกว่า 80 บาท/กก ราคาปาล์มทะลาย 7.5 บาท/กก และกำหนดราคาขายหลังแปรรูปแล้ว ส่วนต้นทุนปุ๋ยที่สูงเป็นปัจจัยหลักเนื่องจากผูกขาดตลาดปุ๋ยของเจ้าสัว นโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ จะสนับสนุนเงินหมุนเวียนให้สหกรณ์การเกษตรอำเภอเพื่อเป็นทุนทำปุ๋ยอินทรีย์หรือนำเข้าบางส่วนเพื่อจำหน่ายราคาทุนให้กับเกษตรกรโดยตรง ก็จะทำให้ลดต้นทุนปุ๋ยได้กว่า 70%
สำหรับด้านการท่องเที่ยวนั้น เนื่องจากจังหวัดตรังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และที่สำคัญมีซอฟท์พาวเวอร์ด้านอาหารการกินที่โดดเด่น โดยเฉพาะหมูย่างเมืองตรัง กาแฟ-ติ่มซำ และอาหารทะเลที่สดอร่อยไม่แพ้ที่อื่นๆ ซึ่งทางพรรคฯ จะผลักดันให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน
โดยเพิ่มกิจกรรมท่องเที่ยวแบบสายกิน โดยอาจจะมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับคนที่สามารถกินอาหารของจังหวัดครบ 9 มื้อ เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อให้เกิดเงินเข้ามาในจังหวัดเพิ่มเติม ตั้งแต่คนขับรถสาธารณะ เจ้าของร้านอาหาร จนกระทั่งชาวบ้านในจังหวัด เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจและความคึกคักให้กับชาวจังหวัดตรังอย่างยั่งยืนอีกด้วย
“ผมได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเสมอว่า การท่องเที่ยวถือเป็น 1 ใน 4 เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่ทำรายได้สูงเฉียด 1 ล้านล้านบาท มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ในวันนี้ ผมและพรรคไทยศรีวิไลย์ กลับเห็นปัญหาที่มีน็อตตัวเล็กๆ กลับหลุดออกมาจากเครื่องจักรการท่องเที่ยว เพราะเห็นความเดือดร้อนของพี่ๆ ผู้ขับรถสาธารณะซึ่งถือเป็นด่านแรกที่นักท่องเที่ยวจะต้องใช้บริการ กลับมีภาวะความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เพราะนอกจากจะต้องเผชิญปัญหาค่าใช้จ่ายสารพัดแล้ว ยังต้องกลัวว่า วันดีคืนดีอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งดำเนินการตามกฎหมาย ทำให้ขาดรายได้และอาจจะเสียประวัติได้
รวมทั้ง ขณะนี้การท่องเที่ยวในจังหวัดตรังยังอยู่ในสภาพที่ไม่เหมือนในอดีต เนื่องจากว่า ประชาชนยังอยู่ในสภาพที่ไม่กล้าเอาเงินออกมาใช้จ่าย เพราะกังวลว่า อาจจะประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมาอีก รวมทั้ง มาตรการที่เรียกว่า ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ กลับสร้างความยุ่งยากในการใช้สิทธิ์ของผู้ประกอบการและผู้ที่มาท่องเที่ยว เพราะฉะนั้น ปัญหาทั้ง 2 เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่ 2 กระทรวง คือ กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะต้องหารือกัน และเผอิญว่า 2 กระทรวงดังกล่าว มีรัฐมนตรีว่าการที่มาจากพรรคการเมืองเดียวกัน ที่มีความมุ่งหมายว่า ในการเลือกตั้งที่ถึงนี้ จะต้องตอกเสาเข็มให้ได้มากที่สุด
ดังนั้น ผมจึงขอให้รับปัญหาของประชาชน ที่ผมได้พบเจอมาในวันนี้ ช่วยกันเร่งรีบพิจารณาก่อนที่จะยุบสภาด้วย เพื่อที่จะทำให้เครื่องยนต์การท่องเที่ยวกลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพในการสร้างเงินเพื่อกระจายรายได้ให้ชาวบ้านในท้องถิ่นและประเทศชาติจะได้มีเงินเพื่อจัดสรรนโยบายต่างๆ ที่พรรคไทยศรีวิไลย์ตั้งใจจะทำให้สำเร็จด้วย ” นายมงคลกิตติ์กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews