“ธีรภัทร” มั่นใจ “ประชาธิปัตย์” รักษาแชมป์สุราษฎร์ได้ ชูแก้กฎหมายประมง-มอบโฉนดที่ดิน ลดความเหลื่อมล้ำ
วันนี้ (13 มี.ค.66) นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ในช่วงเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ตนทำงานต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็นผู้แทน ในวันที่พี่น้องประชาชนประสบความยากลำบากในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ตนได้ลงพื้นที่มาตลอดไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมเยือนหรือว่าหาเครื่องมือให้บุคลากรทางการแพทย์ ตนได้ทำงานกันอย่างหนัก จึงค่อนข้างมั่นใจว่ามีผลงานที่ประจักษ์ เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่าเมื่อผลสุดท้ายในการเลือกตั้งสิ่งที่ทำมาทั้งหมดในระยะเวลาเกือบ 4 ปีจะมีคุณค่าและมีความหมายมากพอ
“เชื่อว่าผลงานที่ได้ทำตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมาน่าจะเอาชนะใจคนสุราษฎร์ได้อีกครั้ง”
นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ไม่อยากเปรียบเทียบสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มมาเปิดตัวแล้วบอกว่าจะขอโอกาสภายในช่วงเวลาแค่ 4-5 เดือน ถ้าเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำงานอย่างจริงจังมุ่งมั่นและจริงใจมาตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีในพื้นที่ ซึ่งตนคิดว่าคนสุราษฎร์น่าจะมีคำตอบในเรื่องนี้ และตนมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะสามารถรักษาแชมป์ได้ทั้งหมด 7 คน
ด้านนโยบาย ตั้งแต่ปี 2562 ตนได้รวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนมาสังเคราะห์เป็นนโยบาย ที่คาดว่าจะตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด ได้แก่
1.พรรคประชาธิปัตย์จะต่อยอดเรื่อง พ.ร.บ.ประมง
เนื่องจากชาวประมงพื้นบ้าน ผู้ทำอาชีพประมง และเครือข่ายประมงทั้งหมดได้รับผลกระทบ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะมุ่งแก้ไขกฎหมายให้เกิดความเหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย และมุ่งเป้าหมายให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและชาวประมงทั้งระบบ ทั้งนี้เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านที่ไม่มีอาชีพอื่นรองรับสามารถมีชีวิตและประกอบอาชีพได้ ซึ่งถ้าสามารถผลักดันกฎหมายออกไปได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวประมงอย่างมาก
2.การมอบโฉนดที่ดินให้ประชาชนได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการเข้าถึงบริการของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนหลายครัวเรือนทำงานมาทั้งชีวิตแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์จะพยายามดึงคนที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมที่ดิน มาพบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อจะได้เข้าใจปัญหา และพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่ผลักดันให้ประชาชนได้รับโฉนดที่ดินให้ได้
3.นโยบายประกันรายได้ เป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนวางแผนชีวิตได้ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หากเราประกันรายได้อย่างน้อยประชาชนก็การันตีได้ว่าไม่ว่าจะขายปาล์มและยางพาราวันไหน อย่างน้อยก็จะได้ในราคานั้น และที่สำคัญรายได้ทั้งหมดก็จะโอนโดยตรงเข้าบัญชีของประชาชนและไม่มีเรื่องของการทุจริตแน่นอน
4.นโยบายธนาคารหมู่บ้าน ธนาคารชุมชน 2 ล้านบาท โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการดูแล กลุ่มวิสาหกิจชุมชนก็จะมีเงินสนับสนุน ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกนำไปใช้สนับสนุนผลงานและต่อยอดวิสาหกิจ ด้านกลุ่มประมงก็จะมีเงินให้กลุ่มละประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งอาจจะนำเงินส่วนนี้ไปสร้างท่าเรือชั่วคราวหรือที่พักพิงชั่วคราวได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews