สธ. แจง วัคซีนโควิดระยะแรก ยังไม่เปิดให้ลงทะเบียนจอง หรือขอรับวัคซีนที่ รพ. ด้านอนุทิน เผย ครม. อนุมัติงบ 6.3พันล้าน จัดซื้ออีก 35 ล้านโดส
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ตั้งเป้าให้คนไทยทุกคนได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ในระยะแรกที่วัคซีนมีจำกัด จะฉีดให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เสี่ยงก่อน โดยวัคซีนโควิด 19 ของซิโนแวคที่ได้รับมา 2 แสนโดสแรก ได้กระจายไปยังพื้นที่เสี่ยงใน 13 จังหวัดแล้ว
โดยจะฉีดใน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ประชาชนที่เป็นโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการบำบัด เบาหวาน และโรคอ้วน 2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามหลักระบาดวิทยาเช่น พื้นที่ที่พบการระบาดของโรคจำนวนมาก เพื่อลดความรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิต เช่น ตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานีที่มีการระบาด เป็นต้น 3.กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน และ 4.บุคลากรอื่นๆ ที่เป็นด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย รวมถึง อสม. โดยจะฉีดให้ 1 แสนคน คนละ 2 โดส ฉีดห่างกัน 21 วัน คาดว่าจะฉีดครบถ้วนทั้ง 2 เข็มภายใน 1 เดือนครึ่ง
“โรงพยาบาลจะเป็นผู้กำหนดกลุ่มเป้าหมายและจัดลำดับการได้รับวัคซีนก่อน-หลัง ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และจะติดต่อกลุ่มเป้าหมายที่เข้าเกณฑ์เพื่อนัดหมายฉีดวัคซีนดังนั้น ประชาชนใน 13 จังหวัดที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ขอให้เพิ่มเพื่อนในไลน์ “หมอพร้อม” เพื่อตรวจสอบรายชื่อ รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน และติดตามอาการภายหลังรับการฉีดวัคซีน
สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. ติดตามชี้แจง ขอย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุขยังไม่เปิดรับการลงทะเบียนจองคิว หรือไปขอรับการฉีดด้วยตนเอง หากประชาชนสงสัยว่าจะได้รับวัคซีนเมื่อไร ให้ตรวจสอบว่าตนเองอยู่ในจังหวัดที่ได้รับวัคซีน และเป็นกลุ่มเป้าหมายในระยะแรกหรือไม่ โดยโทรสอบถามโรงพยาบาลที่รักษาตัวอยู่ หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
อนุทิน เผย ครม. อนุมัติงบ 6.3พันล้าน จัดซื้อวัคซีนโควิด 19 จำนวน 35 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรในประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ภายหลังรับมอบชุดอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิตู้เก็บวัคซีนโควิด 19 จากกลุ่มบริษัท ปตท. ว่า ประเทศไทยได้สั่งจองซื้อวัคซีนโควิด 19 จำนวน 63 ล้านโดส
ขณะนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ได้รับมาในระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา วัคซีนในส่วนที่เหลือจะถูกจัดส่งมายังจังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 จะมีวัคซีนที่ผลิตในประเทศมาฉีดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการให้วัคซีนกับประชาชนในประเทศ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ 6,387,285,900 บาท จัดซื้อวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนกา จำนวน 35 ล้านโดส
ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันว่าวัคซีนจะถูกจัดส่งให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างครอบคลุม ทั่วถึงแน่นอน นอกจาก จะครอบคลุมพี่น้องประชาชนคนไทยแล้ว จะครอบคลุมให้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ให้มีความปลอดภัยทุกคน ตามหลักขององค์การอนามัยโลกที่บอกว่า จะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนปลอดภัย ถือเป็นหลักการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ทุกท่าน โดยเฉพาะคนไทยให้มีความปลอดภัย
สำหรับการเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศ ที่จะมีการเดินทางเข้าออกประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ได้หารือการจัดเอกสารรับรองการได้รับการฉีดวัคซีน ออกโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เป็นเอกสารทางราชการ ที่แนบไปกับพาสปอร์ต เพื่อแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทย ความปลอดภัยของประชาชนคนไทย ที่ได้รับหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน ในเรื่องนี้จะเป็นไปตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อแห่งชาติ โดยในวันจันทร์นี้จะนำเข้าสู่การพิจารณา ของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news