Home
|
อาชญากรรม

ต่างชาติติดเชื้อโควิดในสถานกักกันตม.77คน

Featured Image
ผบช.สตม. ยอมรับ ต่างชาติติดเชื้อโควิด ใน สถานกักกันตม.  77 คน ประสานสาธารณสุข เปิด รพ.สนาม ป้องกันเชื้อแพร่กระจายไปจุดอื่น

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผย ความคืบหน้ากรณีมีผู้ต้องกักชาวต่างชาติ ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางเขน จำนวน 77 ราย ว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รับผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ที่ถูกดำเนินคดี และถูกจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด กว่า 2,000 ราย แต่กระจายไปควบคุมยังด่านต่างๆ ทั่วประเทศ

ส่วนที่ ตม.สวนพลู มีเกือบ 1,000 ราย ยังตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด -19 ส่วน สถานกักบางเขน ตั้งเป็นสถานที่แรกรับผู้ต้องกักชาวต่างชาติ เพื่อกักตัวเป็นเวลา 14 วัน มีการส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19

ส่วนสาเหตุที่มีการแพร่ระบาด เนื่องจากมีผู้ต้องกักบางส่วน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา ลาว กัมพูชา ส่งมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น ตลาดมหาชัย ที่นำมาควบคุม แต่ด้วยข้อกำจัดของห้องควบคุม ทำให้มีการติดเชื้อขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อทั้งหมดรวมแล้ว 77 ราย โดยเป็นผู้ต้องกักทั้งหมด

ส่วนเจ้าหน้าที่ยังไม่พบติดเชื้อ ได้รายงานให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. รับทราบแล้ว พร้อมประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ามาเปิดโรงพยาบาลสนาม และกำหนดมาตรการป้องกัน ไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปจุดอื่น ส่วนผู้ปฏิบัติงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับกักตัว เนื่องจากหากกลับไปพักที่บ้านอาจจะนำเชื้อไปแพร่สู่คนในครอบครัวได้

 

ผบ.ตร. เผย ได้รับรายงานผู้ติดโควิด-19 ในสถานกักกัน ตม.แล้ว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ กทม. และพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 163 คน ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าเป็นชาวเมียนมา จำนวน 68 ราย ที่มาจากสถานกักกัน ตม.บางเขน และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค ว่า เบื้องต้นตนเองได้รับรายงานแล้ว แต่
ตัวเลขไม่แน่ชัด ว่า จำนวน 68 ราย หรือไม่ เนื่องจากมีทั้งที่ สถานที่กักกันของ ตม. จำนวน 2 แห่ง คือ บางเขน และ สวนพลู โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทำการสอบสวนโรคตามมาตรการ

ขณะเดียวกัน ในส่วนของตำรวจต้องกลับมาศึกษาในรายละเอียดว่า ตำรวจทำตามขั้นตอนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แต่ทำไมถึงยังพบผู้ติดเชื้อ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube