กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน พายุฤดูร้อน 21 – 22 มี.ค.นี้ ประเทศไทยตอนบนระวังฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ในช่วงวันที่ 17 – 20 และ 23 มี.ค. 64 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่และมีฝนบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 22 มี.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มี พายุฤดูร้อน เกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และจะมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ เริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้น ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับผลกระทบต่อไป ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ข้อควรระวัง ส่วนในวันที่ 21 – 22 มี.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
- พายุฤดูร้อนถล่ม2หมู่บ้านปราจีนบ้านพัง
- พายุฤดูร้อนถล่มบ้านหมี่ลพบุรีบ้านพัง60หลัง
- อุดรฯอ่วมพายุถล่ม7อ.เตือนปชช.ระวังเจอซ้ำ
- เปิดคลิปนาทีพายุลูกเห็บถล่มโคราช
- พายุฤดูร้อนถล่มโคราช4อ.-วัดมะรุมพังเสียหาย
สำหรับ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 17 – 20 และ 23 มี.ค. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนบางแห่งลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 22 มี.ค. 64 อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรงบางพื้นที่ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news