Home
|
ทั่วไป

ททท. รุกตลาดจีนจัดไลฟ์สตรีมมิง “Super World Trip BOSS LIVE” ครั้งที่ 2

Featured Image
ททท. รุกตลาดจีนจัดไลฟ์สตรีมมิง “Super World Trip BOSS LIVE” ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการ “เที่ยวไทยที่ 1 ในใจจีน” ปิดยอดขายทะลุเป้ากว่า150 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2567การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ Trip.com Groupจัดไลฟ์สตรีมมิง‘Super World Trip BOSS LIVE’ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดภูเก็ต นำเสนอดีลสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ภายใต้โครงการ “เที่ยวไทยที่ 1ในใจจีน” ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมเพิ่มแรงส่งกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง คาดว่าจะช่วยผลักดันเป้าหมายทั้งปี 2567 แตะ 8 ล้านคน ทั้งนี้กิจกรรม Live  Streaming สร้างยอดขายตลอดโครงการฯ มากกว่า 370ล้านบาท

 

จากความสำเร็จของกิจกรรม Live  Streaming Super World Trip BOSS LIVE’ครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567ที่จัดขึ้น ณ โรงแรม Rosewood Bangkokซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมรับชมกว่า 20 ล้านคน และปิดยอดการขายได้กว่า 220 ล้านบาท โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ“เที่ยวไทยที่ 1ในใจจีน” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท. และTrip.com Groupซึ่งได้ใช้กิจกรรม Live  Streaming ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจีน เข้ามาเป็นเครื่องมือการตลาดในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีน ผ่านแพลตฟอร์มของTrip.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Booking ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยกรุงเทพมหานครเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 ขณะที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ติดอยู่ใน 10 อันดับด้วยเช่นกัน ขณะที่การจองที่พักและแพ็กเกจท่องเที่ยวในปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 174% เมื่อเทียบกับปี 2565 และคาดว่าจะยังคงเป็นปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างต่อเนื่องในปี 2567

การ Live Streaming ครั้งที่ 2 นี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ณ จังหวัดภูเก็ต นำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยว โปรโมชันที่พัก ส่วนลดสายการบิน ดีลสินค้าและบริการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน เพื่อเร่งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวและเพิ่มแรงส่งทางการท่องเที่ยวสอดรับกับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างประเทศไทยและจีนที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ควบคู่กับช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสำคัญอย่าง “Maha Songkran World Water Festival” เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 โดยในปีนี้รัฐบาลไทยมีความมุ่งหวังจะผลักดันเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นเฟสติวัลระดับโลก ผ่านการจัดกิจกรรมในหลายพื้นที่ให้มีกิจกรรมในช่วงเวลาที่แตกต่างกันตลอดเดือนเมษายน 2567 นี้

ทั้งนี้ กิจกรรม Live  Streaming  ‘Super World TripBOSS LIVE’ ครั้งที่ 2มีผู้เข้ารับชมการออกอากาศกว่า 15ล้านคน และมียอดขายแล้วกว่า 150ล้านบาท รวมยอดขายตลอดโครงการฯ สร้างรายได้มากกว่า 370ล้านบาท ซึ่ง ททท. คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นำไปสู่การสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว ยกระดับภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

จากสถิติปี 2566 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งสิ้น 3,519,735คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอันดับที่ 2 ที่มาประเทศไทยสูงสุด รองจากมาเลเซีย และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -11 กุมภาพันธ์ 2567
มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยแล้ว 811,853 คน และมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา(Visa Exemption) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของรัฐบาลและ ททท. ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ และโครงการ “เที่ยวไทยที่ 1ในใจจีน”ที่จะจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกของการท่องเที่ยวประเทศไทยผ่านInfluencers ชาวจีนในกิจกรรม Media and Agent Fam Trip  ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มแรงส่งในการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพชาวจีนเข้ามายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งฟื้นฟู
ความเชื่อมั่น พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างรอบด้าน รวมทั้งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อนำไปสู่
ความมั่นใจในการเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในระยะยาวพร้อมผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวจีนแตะ 8 ล้านคนในปี 2567 นี้

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube