“อนุทิน”เปิดงาน”Smart living with COVID-19”
“อนุทิน” เปิดงาน “Smart living with COVID-19” ชู ประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 สุดเยี่ยม ตั้งมั่น ดูแลผู้ป่วยทุกคน แบบสุดความสามารถ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างการเปิดงานเสวนา Smart Living with covid-19 save ทุกลมหายใจ พาคนไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ถึงประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายมุ่งเน้นให้ประชาชนแข็งแรง สิ่งที่ตามมาคือเศรษฐกิจและประเทศไทยแข็งแรง โดยช่วงเริ่มต้น การระบาดมาจากนักท่องเที่ยว ไทยได้ให้การรักษาผู้ป่วยอย่างดีจนสามารถกลับประเทศอย่างปลอดภัย สร้างความศรัทธาแก่ประชาคมโลกอย่างมาก โดยเฉพาะจีน ทำให้ไทยได้รับการสนับสนุนหลาย ๆ ด้านทั้งการจัดสรรเวชภัณฑ์และสิ่งต่างๆ เป็นการตอบแทน ซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจระหว่างสองชาติอย่างมหาศาล และหลังจากนั้นเราก็ทำงานร่วมกันเรื่อยมา โดยเฉพาะวัคซีนซิโนแวค ที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ แต่ที่เราสามารถนำเข้ามาได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยทำคุณงามความดีต่อชาวจีนจนเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ ความสำเร็จของไทย ยังปรากฏให้เห็น เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ชาติที่รักษาผู้ป่วยอย่างยากลำบาก และเลือกรักษาเฉพาะผู้ป่วยวิกฤติ ขณะที่ไทย บุคลากรทางการแพทย์ถูกฝึกมาให้ความสำคัญกับทุกชีวิต เซฟทุกชีวิต ตามเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ให้มีคำว่า “มีผู้เสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรักษา”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องทำคือต้อง Smart Living ต่อไป รู้ทันโรค ตั้งการ์ด สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และต้องรุกตลอดเวลา ให้โรคแพ้เรา และนอกจาก Smart Living แล้วเราต้อง Smart work ด้วย เป็นสิ่งยืนยันว่าระบบสาธารณสุขไทยอยู่เหนือมาตรฐานที่วางไว้ และหวังว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเป็นตัวปิดเกม ซึ่งวัคซีนที่ไทยเลือก ผู้เลือกคือหมอทุกท่าน ตนฟังคำแนะนำจากคณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ใต้ชื่อแบรนด์ MIT หรือ Made in Thailand เราได้แบรนด์ระดับโลกมาผลิตในบ้านเรา คือ แอสตราเซเนกา ซึ่งมีประสิทธิผลน่าพึงพอใจ ทำให้อาการไม่รุนแรง ลดโอกาสการเสียชีวิต นี่คือเหตุผลที่คนไทยต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด
ล่าสุดคือผู้ว่าสมุทรสาครที่เคยป่วยเข้าขั้นวิกฤติ แต่ด้วยความมุ่งมั่น และด้วยระบบการแพทย์ เราก็ Save Life ท่าน และเราจะ Save Life- Smart Living- Smart Working ให้ประเทศไทยเป็น Smart Country ต่อไป”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news