ศบค. ชุดเล็กชง 3 แนวทาง คุมสถานบันเทิง ปิดผับ-ปิดโซน-ปิดทั้งจังหวัด หากควบคุมไม่ได้ กำชับเข้มมาตรการป้องกัน
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก มีการหารือกำหนดมาตรการป้องกันโรคโดยเสนอ 3 ระดับ คือ หากพบผับ บาร์ มีการรายงานผู้ติดเชื้อผลเป็นบวก ต้องปิดทำการทันทีเพื่อระมัดระวังสูงสุดเป็นเวลาสองสัปดาห์, หากมีการพบผู้ติดเชื้อเป็นโซนจะมีการปิดทำการเป็นโซน เช่น ปิดโซนทองหล่อทั้งโซน และหากเกิดสถานการณ์ควบคุมไม่ได้หากมีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นมากกว่านี้จะต้องมีการปิดสถานบันเทิงทั้งจังหวัด จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง
ซึ่งทาง ศบค. เน้นย้ำร้านอาหารและสถานบันเทิงที่ไม่มีการพบผู้ติดเชื้อให้เฝ้าระวังซึ่งทาง ศบค. และกรมควบคุมโรคจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดซึ่งหากพบการแพร่กระจายมากกว่านี้อาจมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น
ส่วนกรณีสถานบันเทิงในกรุงเทพและปริมณฑลตัวเลขเมื่อวันที่ 3 เม.ย. พบคลัสเตอร์เดียวกัน 71 ราย แบ่งเป็นพื้นที่ปทุมธานีและรังสิต 5 ราย ปทุมธานีเชื่อมโยง 6 ราย บางใหญ่ นนทบุรี 8 รายนครปฐม ศาลายา 7 ราย และพื้นที่ กทม. มีการกระจายไปทองหล่อ จตุจักร เอกมัย และ รัชดา ซึ่งทางกรมควบคุมโรคตรวจสอบพบการระบายอากาศของสถานบันเทิงผับ บาร์ มีเพดานที่ต่ำ อากาศปิด และไม่มีการระบายอากาศรวมถึงอาจมีการคลุกคลีพูดคุยไม่ใส่หน้ากากอนามัย จึงเกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
แพทย์หญิงอภิสมัย เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีการหารือถึงการติดเชื้อในเรือนจำนราธิวาส มีการตรวจและสรุปตัวเลขผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2564 จำนวน 214 ตัวอย่าง ผลพบเชื้อ 112 รายเป็นนักโทษ 88 ราย เจ้าหน้าที่ 25 ราย และ พยาบาล 1 ราย โดยกรมควบคุมโรคได้สอบสวนโรคอย่างต่อเนื่องพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำรวม 798 ราย
โดยกรมควบคุมโรคสอบสวนพบ เคสแรก เป็นพยาบาลที่มีผลพบเชื้อวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งมีประวัติดูแลนักโทษเมื่อวันที่ 28 มี.ค. และผู้ป่วยแดนนั้นมีการแสดงอาการป่วย 25 มี.ค. คาดพยาบาลติดตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.
ทั้งนี้แพทย์หญิงอภิสมัย เน้นย้ำว่า กรมควบคุมโรค สสจ. และเรือนจำ ทำงานกันอย่างดีและจำกัดวงรอบการแพร่กระจาย ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
