“อนุทิน” แจงแผนจัดการวัคซีน โควิด19 ลุ้นเดือนเมษาฯ ได้ 1.5 ล้านโดส จ่อเสนอมาตรการเข้ม ชี้ อาจปิดสถานบันเทิงต่อหลังตัวเลขติดเชื้อสูง
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงแผนบริการจัดการวัคซีน โควิด19 ว่า สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด 19 จากบริษัท Sinovac จำนวน 1 ล้านโดส สุดท้ายจากการคำสั่งจัดหาทั้งสิ้น 2 ล้านโดส ได้รับการยืนยันว่าจะส่งเข้ามาถึงไทยภายในกลางเดือนเมษายน 2564
และล่าสุด ได้รับรายงานว่า ได้ประสบความสำเร็จ ในการเจรจาสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มเติม จากบริษัท Sinovac อีก 500,000 โดส ซึ่งตามแผนไทยจะได้รับวัคซีนในเดือนเมษายน เช่น กัน สรุปเดือนนี้ ไทยน่าจะได้วัคซีน 1.5 ล้านโดส
“การที่ประเทศไทยมีวัคซีนที่จัดหาได้เพิ่มเติมเช่นนี้ ก็เพื่อรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า และเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรให้เป็นไปตามแผนระยะต่างๆ ระหว่างรอวัคซีน จากแอสตร้าเซเนก้า ที่ผลิตใน ประเทศไทย ซึ่งทยอยออกมาฉีดให้ประชาชนในเดือนมิ.ย. เดือนละ 5-10 ล้านโดส”
“อนุทิน” จ่อเสนอมาตรการเข้ม ต่อที่ประชุม ศบค. ชี้อาจปิดสถานบันเทิงต่อ หลังตัวเลขติดเชื้อโควิดสูง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของ โควิด19 ในสถานบันเทิง ว่า กรมควบคุมโรค รายงานข้อมูลการติดเชื้อจากสถานบันเทิงสูงตัวเลขค่อนข้างสูง
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน จะต้องเสนอมาตรการที่มีความเข้มข้น ต่อที่ประชุม ศบค. อาจถึงขั้นเสนอให้ปิดสถานบันเทิง ในพื้นที่เสี่ยง หรือมาตรการที่มากกว่านั้น เพราะหากติดในพื้นที่หนึ่ง แต่บางพื้นที่ยังเปิดอยู่ ก็อาจจะเกิดการเคลื่อนย้ายของคน ซึ่งจะควบคุมได้ยาก
“แต่ก็ต้องให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกันอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ประชาชนช่วยกัน ให้ความร่วมมือในมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ในปีที่ผ่านมาเราสามารถควบคุมการระบาดไว้ได้ เพราะทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ระหว่างนี้ก็จะมีการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามแผนที่เราได้วางไว้”
นายอนุทิน กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. ได้ปรับแผนบริการวัคซีน โดยจะนำลงไปฉีดให้กับ พนักงานที่ทำงานในสถานบันเทิงและครอบครัว ในข้อเสนอนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละพื้นที่
โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทำงานอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแผนหลักสำหรับจัดการสถานการณ์ แต่เมื่อมีเหตุเร่งด่วนก็พร้อมปรับแผนเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เข้ามา ขอย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุขทำงานอย่างเต็มความสามารถ ทุกอย่างอยู่ในแผนหลัก และแผนรอง
กทม.ปรับแผนฉีดวัคซีน หลังพบผู้ติดเชื้อย่านทองหล่อ คาดได้รับวัคซีนรอบ 3 จากรัฐบาลภายในเดือนนี้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2564 ว่า เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กลุ่มก้อน (Cluster) ใหม่บริเวณสถานบันเทิง สถานบริการย่านทองหล่อ (สุขุมวิท 55) เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร จึงเชิญคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนฯมาร่วมประชุม เพื่อขอปรับมติการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค ที่กรุงเทพมหานคร ได้รับจัดสรรจากรัฐบาล รอบที่ 2 จำนวน 100,000 โดส
โดยกรุงเทพมหานคร ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค รอบแรกเมื่อประมาณปลายเดือน ก.พ.64 จำนวน 66,000 โดส ได้ฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มต่าง ๆหมดภายในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน, อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.)และเจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ, กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และ กลุ่มเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดย่านบางแค
อย่างไรก็ตาม วัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จำเป็นต้องฉีด คนละ 2 โดส ดังนั้นเมื่อได้รับจัดสรรวัคซีนฯ จากรัฐบาลในรอบที่ 2 จำนวน 100,000 โดสคณะอนุกรรมการฯ จึงกันไว้สำหรับเป็นวัคซีนเข็มที่ 2 ของผู้ได้รับวัคซีนในรอบแรก จำนวน 66,000 โดส ส่วนที่เหลือ 34,000 โดส จัดไว้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ จำนวน 24,000 โดส หรือ 12,000 คน
ส่วนที่เหลือ 10,000 โดสมติที่ประชุมครั้งที่ผ่านมา (5/2564) กำหนดให้ฉีดแก่บุคคลกลุ่มต่าง ๆ คือ ผู้ค้าคนไทยในตลาด 4 เขตใกล้เคียงตลาดย่านบางแค,เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ ประกอบด้วย ฝ่ายทะเบียน 50 เขต และฝ่ายพัฒนาสังคม 6 เขตติดจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งสิ้น 5,000 คน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาด Cluster ใหม่ย่านทองหล่อ กรุงเทพมหานคร จึงเชิญคณะอนุกรรมการฯ มาร่วมประชุม เพื่อขอมติที่ประชุมปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการวัคซีน จำนวน 10,000 โดส
โดยที่ประชุมเห็นควรปรับเปลี่ยนการให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อ จำนวน 2,000 โดส, ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดย่านตลาดบางแค และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 2,000 โดส,ใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในสถานที่ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นใหม่ จำนวน 1,800 โดส และใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ Cluster ย่านทองหล่อ จำนวน 4,200 โดสหรือกลุ่มเสี่ยง จำนวน 2,100 คน
ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านหน้าในพื้นที่ 400 คน และผู้ที่มีความเสี่ยงจากการสอบสวนโรค จำนวน 1,700 คน ทั้งนี้คาดว่ากรุงเทพมหานคร จะได้รับจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จากรัฐบาลในรอบที่ 3 ภายในเดือนนี้
สงขลาประเดิมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ให้บุคลากรทางการแพทย์วันแรก หลังรับจัดสรร10,000 โดส
ที่ จ.สงขลา ได้มีการเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ขึ้นเป็นวันแรก หลังได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด 19 ชนิดซิโนแวค ลอตแรกมาให้จำนวน 10,000 โด๊ส ใช้ได้ 5,000 คน กระจายไปให้กับโรงพยาบาล 14 แห่ง ในจังหวัด และแต่ละโรงพยาบาลก็ได้เริ่มทำการฉีดวัคซีนให้กับผู้บริหารฝ่ายการแพทย์ รวมทั้งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ และมีความเสี่ยงในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดเป็นกลุ่มแรก
โดยบรรยากาศที่ห้องประชุม นพ.จำลอง บ่อเกิด ชั้น 5 โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ทาง พญ.สุวิวรรณ นกหนู นายแพทย์เชี่ยวชาญ (กลุ่มงานโสต ศอ นาสิก) และรองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ได้นำทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ชุดแรกจำนวน 80 คน เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19
โดยทั้งหมดเป็นกลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นแนวหน้าในการป้องกัน ดูแล รักษา ผู้ป่วยโควิด 19 และจะมีการทยอยฉีดวัคซีนให้กับบุคากรทางการแพทย์ รวมทั้งอาสาสมัครทางการแพทย์ และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหาร อีก 3 รอบ ในวันถัดไปอีกรวม 3 วัน หลังได้รับการจัดสรรวัคซีนล็อตแรกมาให้กับโรงพยาบาลหาดใหญ่ ทั้งหมดจำนวน 760 โด๊ส
พญ.สุวิวรรณ นกหนู นายแพทย์เชี่ยวชาญ (กลุ่มงานโสต ศอ นาสิก) และ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ เผยว่า การฉีดวัคซีนลอตแรกในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้บางคนอาจจะมีความตื่นเต้นไปบ้าง และทุกขั้นตอนทำไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการพักสังเกตอาการผิดปกติหลังฉีดวัคซีนด้วย และหลังจากนี้อีก 21 วัน ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 จะต้องกลับมาฉีดเข็มที่ 2 อีกครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันเชื้อโควิด 19 ได้ราว 1 ปี
นอกจากนี้ คาดว่า ในช่วงต้นเดือน พ.ค. น่าจะมีการจัดสรรวัคซีนเข้ามาอีกลอต ซึ่งจะสามารถช่วยกระจายไปยังบุคลากรทางการแพทย์ในส่วนที่เหลือ รวมทั้งจะการเปิดโอกาสให้ประชาชนลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย โดยจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ประจวบฯเริ่มฉีดวัคซีนโควิด19แล้วล็อตแรก 1,800 โดส สร้างความมั่นใจประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัด
นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายแพทย์พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นายเรวัฒน์ สุขหอม สาธารณสุขอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำคณะแพทย์-พยาบาล จำนวน 200 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อีกจำนวน 250 คน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19
หลังจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนแว็คล็อตแรก 1,800 โดส เพื่อฉีดให้แก่บุคลากรกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อจำนวน 900 คน ในพื้นที่เสี่ยงสูง 2 อำเภอ คือ อำเภอเมือง และอำเภอหัวหิน
โดยในวันนี้นายแพทย์สุริยะคูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)เป็นผู้ประเดิมการฉีดวัคซีนโด๊สแรกเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บุคลากรและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงบุคลากรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบฯ โดยมีทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และสาธารณสุขอำเภอเมือง มาร่วมปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกประจำจุดต่างๆ ที่มีการกำหนดไว้ 8 จุด ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
มีการจัดพื้นที่เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีด 30 นาที มีการตรวจสอบและบันทึกผลหลังการฉีดวัคซีน ซึ่งผลการฉีดวัคซีนในวันนี้ไม่พบผู้ที่มีอาการข้างเคียงแต่อย่างใด และได้นัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนโด๊สที่ 2 ในวันที่ 26 เม.ย.นี้
นายอำเภอสุไหงโก-ลก ประเดิมฉีดเข็มแรก ของ จ.นราธิวาส ขณะเป้าหมายวันแรก ยอดผู้เข้ารับการฉีด 640 คน
ที่ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้เดินทางมาสังเกตการณ์การฉีดวัคซีนซิโนแวคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนายอำเภอสุไหงโก-ลกได้ประเดิมฉีดเป็นเข็มแรก ของ จ.นราธิวาส พร้อมทั้งให้กำลังใจทีมบุคลากรทางการแพทย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถือว่าเป็นพื้นที่หน้าด่าน ที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทางคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ได้จัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลอตแรก จำนวน 640 โดส เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ และเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายในวันนี้เป็นวันแรก
โดยยอดผู้เข้ารับการฉีดกำหนดไว้ จำนวน 640 คน ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าของโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก อสม. เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าจะฉีดครบทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ ตามที่โรงพยาบาลได้นัดหมายไว้
โดยหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซันซิโนแวค ป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่จะรอสังเกตอาการผู้รับวัคซีนในเบื้องต้นเพื่อหาอาการผิดปกติ คนละ 30 นาที และทุกคนต้องโหลด LINE หมอพร้อม เพื่อรายงานอาการความผิดปกติหรือปกติ ให้รับทราบ หลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วครบ 1 วัน 7 วัน และทุกคนที่มารับการฉีดวัคซีนในวันนี้ ต้องมารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่จะถึงนี้ จึงจะครบกระบวนการให้วัคซีนซิโนแวค ในการป้องกันการติดเชื้อแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
