Home
|
ทั่วไป

สสส. – ศวปถ.- กรมประชาสัมพันธ์ สานพลังภาคีเครือข่าย ยกระดับทิศทางกลไกประชาสัมพันธ์

Featured Image

 

 

สสส. – ศวปถ.- กรมประชาสัมพันธ์ สานพลังภาคีเครือข่าย ยกระดับทิศทางกลไกประชาสัมพันธ์ เชื่อมประสารการทำงาน บูรณาการสื่อส่วนกลาง สื่อท้องถิ่นร่วมกับ ศปถ.จังหวัด เพื่อสร้างวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัย

 

วันที่ 30 ก.ย. 2567 ณ ห้องประชุมเลอเบลแอร์ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กลุ่ม Nudge Thailand (กลุ่มนักพฤติกรรมศาสตร์ประเทศไทย) ผู้แทนกลุ่มอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน (อป.มช.) และภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงข่าวปิดโครงการ “พัฒนาและสนับสนุนกลไกประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยทางถนน” เพื่อขับเคลื่อนการทำงานคณะอนุกรรมการด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและความตระหนักในการใช้รถใช้ถนน ร่วมกับประชาสัมพันธ์จังหวัดและศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด (ศปถ.จ.)

นางสาวชนิสา ชมศิลป์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า “อุบัติเหตุทางถนน เป็นหนึ่งปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และชีวิต การสูญเสียดังกล่าว สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี และประเทศไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนได้ตามเป้าหมายทศวรรษด้านความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554 – 2563 ขององค์การอนามัยโลก และในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา สถานการณ์การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย มากถึง 17,379 คน คิดเป็นอัตราผู้เสียชีวิต 26.65 ซึ่งมากกว่าปี พ.ศ. 2564 (จำนวน 16,957 คน อัตราผู้เสียชีวิต 25.92) และมากกว่าร้อยละ 80 เกิดจากพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ รวมถึง อุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ในกลุ่มเด็กและเยาวชน ตามแนวทางการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกันจากทุกภาคส่วน  เพื่อนำข้อมูลอุบัติเหตุในพื้นที่มาสื่อสารสร้างความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่คณะอนุกรรมการด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนจะผลักดันในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยด้วยการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในการรณรงค์สื่อสารประชาสัมพันธ์ด้านความปลอดภัยทางถนนต่อไป

 

นายวิทยา จันทน์เสนะ ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า “การขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทยต้องอาศัยกลไกที่มีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงหน่วยงานราชการ เอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เพื่อประสานงานและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน กลไกนี้มีความสำคัญในการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ ความสำคัญของการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในสังคม โดยการให้ข้อมูลและการสื่อสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่อุบัติเหตุ และการเสนอแนวทางการป้องกัน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้น

          รศ.ดร.กุลทิพย์ ศาสตระรุจิ ที่ปรึกษาสาขาการศึกษาและการเรียนรู้และ/หรือสุขภาพดิจิทัล กล่าวว่า พฤติกรรมการบริโภคสื่อสังคมของแต่ละ Generation นั้นมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ ประสบการณ์ เทคโนโลยีที่เติบโตมา และความนิยมในแพลตฟอร์มต่างๆ ตัวอย่างเช่น 1) GEN X จะสนใจและใช้สื่อ Facebook TikTok YouTube เพื่อรับชมในเนื้อหาการเงิน การลงทุน การพัฒนาตนเอง 2) GEN Y จะสนใจและใช้สื่อ Facebook YouTube Instagram TikTok Streaming เพื่อรับชมเนื้อหาการออกกำลังกาย อาหารสุขภาพหรือจัดบ้าน 3) GEN Z จะสนใจและใช้สื่อ YouTube Instagram TikTok เพื่อรับชมเนื้อหาคอนเทนต์พัฒนาตัวเอง การท่องเที่ยวที่ทำเงินได้  นอกจากนี้ การใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) เพื่อสื่อสาร ในปัจจุบันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการสื่อสาร ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสื่อกลางที่ให้บุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมสร้างและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ

 

โดย อินฟลูเอนเซอร์นั้นจะเป็นคนผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งภาพถ่าย คลิปวิดีโอ บทความ ที่เกี่ยวกับเรื่องที่สนใจ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความน่าเชื่อถือ และเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คน ดังนั้นในการจะออกแบบสื่อหรือผลิตสื่อที่โดนใจด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและ ความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมการเสพสื่อในปัจจุบัน รวมไปถึงการใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer )ของแต่ละพื้นที่

 

นางอรพรรณ อ่อนด้วง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า “จังหวัดมหาสารคามได้มีความก้าวหน้าอย่างมากในการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนผ่านแคมเปญการสื่อสารที่สร้างสรรค์และมุ่งเน้นชุมชน ซึ่งจังหวัดได้ใช้ช่องทางสื่อสารทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ เช่น การสวมหมวกนิรภัย การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และการดื่มแล้วขับ หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของจังหวัดคือแคมเปญวิดีโอไวรัล “ขี่ปุ๊บ สุบปั๊บ” ที่ส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์สวมหมวกนิรภัยทันทีเมื่อขึ้นรถ ซึ่งวิดีโอสั้นนี้ได้รับความนิยมและสามารถสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการใช้คุณแม่และเด็กมาเป็น influencer เพื่อสื่อสารข้อความที่สำคัญ นอกจากนี้ จังหวัดมหาสารคามยังได้เชื่อมโยงการสื่อสารกับวาระการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% โดยมุ่งเน้นไปที่เด็กและเยาวชน และมีการใช้ภาษาถิ่นในการจัดทำเนื้อหาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติในการสื่อสาร โดยใช้ปฏิทินความเสี่ยงในการทำงานร่วมกันเป็นทีมในการออกแบบการสื่อสารและผลิตเป็น infographic ที่เผยแพร่ให้กับเด็กๆ เช่น การรณรงค์ให้เด็กใช้ทางม้าลายที่ถูกต้องในช่วงเปิดเทอม และการเตือนระวังในการขับรถในช่วงฤดูฝน” นางอรพรรณ กล่าว

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube