หมอชิตคึกปชช.เดินทางสงกรานต์
ประชาชนทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ ด้าน บขส. เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 ยอดคืนตั๋วโดยสาร 4,160 ใบ
บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือ หมอชิต ล่าสุดประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ แต่ไม่หนาแน่นมากนักเนื่องจากอาจเป็นเพราะหลายพื้นที่ประกาศกักตัว 14 วันหากเดินทางเข้าพื้นที่ โดยทาง บขส. คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางกลับต่างจังหวัดประมาณ 50,000 คนพร้อมกันนี้ทาง บขส. ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่มีความประสงค์งดการเดินทางในระหว่างวันที่ 8 -18 เมษายน 2564 ให้คืนตั๋วโดยสารได้เต็มราคา ไม่หักค่าธรรมเนียม ซึ่งข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 มีผู้โดยสารนำตั๋วโดยสารมาขอคืนแล้ว 4,160 ใบ คิดเป็นร้อยละ 6.58 ของตั๋วโดยสารที่จองล่วงหน้า
ขณะที่ด้านการรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทขนส่งและตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อย พร้อมทั้งวางมาตรการ ในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนการจราจรโดยรอบบริเวณขนส่งหมอชิตยังคงสามารถใช้การได้คล่องตัว
บรรยากาศช่วงค่ำ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือ หมอชิต ล่าสุดมีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์จำนวนมาก
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทขนส่งและตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อย พร้อมทั้งวางมาตรการเข้มในการป้องกันโควิด-19 ทั้งการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาทั้งอยู่ในพื้นที่อาคารโดยสาร รวมทั้งบนรถโดยสาร
ส่วนการจราจรโดยรอบบริเวณขนส่งหมอชิต การจราจรเริ่มติดขัด โดยทาง บขส. แนะนำประชาชนให้เผื่อเวลาในการเดินทางก่อนรถออก 1 ถึง 2 ชั่วโมง
กรมการขนส่งขอความร่วมมือผู้โดยสารสแกน ไทยชนะ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดคุย งดทานอาหาร พร้อมเปิดศูนย์คุ้มครองผู้โดยสาร 1584
นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก ได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทาง อาทิจัดยานพาหนะอย่างเพียงพอ ดูแลการจราจรให้คล่องตัว แนะนำการใช้เส้นทางที่เหมาะสม และมาตรการดูแลความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน พบผู้ติดเชื้อจากระบบขนส่งต่ำมาก โดยได้จัดช่องทางจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ ลดแออัดหนาแน่นที่สถานี จัดระบบคิวซื้อตั๋วแบบเว้นระยะห่าง มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ ผู้โดยสาร/ พนักงานขับรถและประจำรถไม่ยินยอมให้ผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากขึ้นรถ ทำความสะอาดผิวสัมผัสภายในสถานี ภายในรถ งดบริการอาหารและรับประทานอาหารบนรถ เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศที่จุดพักรถทุก 2 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสาร สแกน ไทยชนะ หรือลงทะเบียนการเดินทางกับขนส่ง เพื่อความสะดวกในการสอบสวนโรคกรณีพบการติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดคุยโทรศัพท์ ร้องเรียนด้านบริการ เช่น พนักงานขับรถเร็ว หวาดเสียว ไม่สวมหน้ากาก ได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสาร 1584หรือเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://www.dlt.go.th
ประชาชนกังวลคนการ์ดตกช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย้ำ จัดกิจกรรมแบบ New Normal
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงว่า กรมอนามัย ได้จัดทำอนามัยโพลล์ สำรวจระดับความกังวลของประชาชนต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 7 เมษายน 2564 พบว่า มีความกังวลปานกลางและกังวลมากร้อยละ 76.6 เรื่องที่กังวลมากที่สุดคือการละเลยการป้องกันตัวเองร้อยละ 21.27 รองลงมาคือ กลัวการติดเชื้อจากการรวมกลุ่มในสถานที่ต่างๆ, สถานที่ต่างๆ ไม่ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค, สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจสำหรับเรื่องพฤติกรรมการป้องกันโรคด้วยหลัก DMHTT ในประชาชน 6,987 คน พบว่า ประชาชนปฏิบัติได้มากที่สุด คือ สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อไปในที่สาธารณะร้อยละ 92 รองลงมาคือตรวจวัดอุณหภูมิร้อยละ 91.5 ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ร้อยละ 85.5 เว้นระยะห่างร้อยละ 78.9 และลงทะเบียนไทยชนะร้อยละ 72
โดยกลุ่มอายุ 45-59 ปี มีพฤติกรรมป้องกันโรคมากที่สุดและกลุ่มอายุต่ำกว่า 15 ปีทำได้น้อยที่สุด ส่วนกิจกรรมที่ประชาชนจะทำในช่วงสงกรานต์มากที่สุด คือไปทำบุญตักบาตรรองลงมาคือรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ สรงน้ำพระ และพบว่ากลุ่มอายุ 25–59 ปี จะใช้ระบบออนไลน์แทนการนัดรวมกลุ่มกัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเมื่อเดินทางถึงบ้านขอให้อยู่กับครอบครัวที่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ลดกิจกรรม ลดเวลาร่วมกิจกรรม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ส่วนผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวยึดหลัก New Normal ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวควรมีผู้ติดตามและนำยาประจำตัวไปด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news