ประชาชนทำบุญวันสงกรานต์วัดธาตุทอง ค่อยข้างเงียบเหงาหลังโควิดระบาดอีกรอบ โดยวัดไม่มีกิจกรรมสรงน้ำพระเหมือนทุกปี
บรรยากาศที่วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 เป็นไปอย่างเงียบเหงาไม่มีการจัดกิจกรรม แต่พบประชาชนบางส่วนยังเดินทางมาทำบุญ หลัง โควิด ระบาดอีกรอบ
โดยภายในวัด ไม่มีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป เหมือนปกติ แต่ยังคงเปิดให้ประชาชนเดินทางมาทำบุญ ถวายสังฆทาน และสวดมนต์ขอพรรวมถึงปิดทองพระพุทธรูปได้ตามเดิม ส่วนบริเวณโดยรอบอุโบสถที่มักจะใช้เป็นจุดจัดกิจกรรมตามวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่วันนี้ไม่มีการจัดกิจกรรมใด ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมืองดจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมคนจำนวนมาก
เพื่อลดการสัมผัสหลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้งจากคลัสเตอร์ทองหล่อ
อย่างไรก็ตาม พบว่ามีประชาชนบางส่วนเดินทางมาทำบุญถวายสังฆทาน ซึ่งทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีการเว้นระยะห่างตามมาตรการที่ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
บรรยากาศที่วัดพระไกรสีห์น้อย ซอยรามคำแหง 23 ยังพบว่ามีประชาชนสวมเสื้อลายดอก สวมหน้ากากอนามัยทยอยเดินทางมาทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันสงกรานต์วันแรก ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยกันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ต่างเดินทางกันมาเป็นครอบครัว มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งนอกจากนี้ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทานแล้ว ยังมีการทำบุญใส่บาตรปล่อยนกปล่อยปลา ถวายผ้าบังสกุล เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วด้วย โดยบรรยากาศปีนี้ไม่คึกคักมากนักเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-1 ระลอกใหม่
ขณะที่บรรยากาศที่วัดเนินสว่าง ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พบว่าชาวบ้านมาทำบุญตักบาตรกันค่อยมาก โดยทางวัดได้มีการจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง และขอความร่วมมือชาวบ้านสวมหน้ากากอนามัยแบบ100% ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด เนื่องจากมีประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดเพื่อกลับบ้านในช่วงสงกรานต์กันจำนวนหนึ่ง โดยทางผู้ใหญ่และ อสม. ได้มีการประกาศให้ผู้ที่กลับจากต่างหวัดรายงานตัวและปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดและงดร่วมกิจกรรมสังสรรค์ ส่วนใหญ่ต่างให้ความร่วมมืออย่างดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
