Home
|
ทั่วไป

สงกรานต์สีลมเงียบเหงา-ร้านค้าปิดเงียบ

Featured Image
บรรยากาศย่านถนนสีลมวันสงกรานต์ปี 64 เงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าปิดร้านค้าเงียบ หลังห้ามจัดกรรม เหตุป้องกันโควิด-19 ระบาด

ทีมข่าวลงพื้นที่ ย่านสีลมเพื่อสำรวจดูบรรยากาศเทศกาลวันสงกรานต์ในวันที่ 13 เมษายน พบว่าวันนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ร้านค้าต่างๆ ส่วนใหญ่ปิดให้บริการโดยมีการติดป้ายประกาศแจ้งปิดร้านในช่วงเทศกาล ขณะที่บริเวณทางเดินเท้า พบแม่ค้ามาตั้งแผงขายสินค้า เสื้อผ้าและอาหารในบางจุด

เมื่อสอบถาม น.ส.สำเภา ดำพิมาย หรือพี่แจ่ม แม่ค้าขายร้องเท้า อยู่ที่บริเวณปากซอยสีลม 1 เล่าว่า ตนเองขายสินค้าที่บริเวณนี้มานานร่วม 17 ปี โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์บริเวณนี้จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะมาร่วมเล่นน้ำ ซึ่งถือเป็นช่วงที่ทำรายได้ให้ตนเองเป็นอย่างมากแต่เมื่อมีสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ย่านสีลมไม่มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์มา 2 ปีแล้ว จึงทำให้ปีนี้สีลมเงียบเหงา และยังส่งผลกระทบต่อรายได้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าโครงการของรัฐบาล เช่นโครงการเราชนะเรารักกัน เข้ามาช่วยเหลือกระตุ้นยอดขายให้คนยอมจ่ายเงินมากกขึ้น

ด้าน เจ๊ตุ้ม แม่ค้าขายเสื้อลายดอก เป็นอีกหนึ่งเสียงที่เล่าบรรยากาศสงกรานต์สีลม ให้ทีมข่าวฟังว่า ย่านสีลมแห่งนี่ไม่มีการจัดงานสงกรานต์มาแล้ว 2 ปี ทำให้บรรยากาศเงียบเหงามาก มีแม่ค้าขายของ แต่กลับไม่มีคนซื้อ ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อร่วมเทศกาลสงกรานต์สีลมจำนวนมากคนเต็มพื้นที่ และตนเองจะขายเสื้อลายดอกซึ่งถือเป็นสินค้ายอดฮิต ได้ไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาทอีกทั้งแม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านสีลม เล่าว่า บรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา เงียบเหงามาก โดยส่วนตัวคาดหวังขอให้ในช่วงบ่ายวันนี้มีประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนบรรยากาศการจราจรบนถนนสีลมทั้งขาเข้าและขาออก พบว่าถนนโล่ง รถสามารถเคลื่อนตัวได้ดี ไม่มีติดขัดหรือชะลอตัว นอกจากนี้พบว่ารถที่มีการสัญจรบนท้องถนนส่วนใหญ่จะเป็น รถจักรยานยนต์ที่ให้บริการสั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆที่มารอรับออเดอร์จากลูกค้า

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube