อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันวัคซีนซิโนแวคไร้ปัญหาเร่งฉีดต่อ ปัดลำปางพบสโตรก 40 คน ชี้ไม่เป็นความจริง- จ่อจัดหาวัคซีนอีก 35 ล้านโดส
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีจังหวัดลำปาง ระงับการฉีดวัคซีนซิโนแวคหลังพบบุคคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์กว่า 40 คน โดยมีอาการขาแขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า ที่บอกว่ามีอาการคล้ายๆ หลอดเลือดสมอง อีก 40 รายนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยมีเพียง 1 รายเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ ปกติทั่วไป เช่น ชาตามปลายมือ ปลายเท้า รู้สึกเมื่อยๆอ่อนเพลีย โดยทางสาธารณสุขจังหวัดได้ออกแถลงการณ์ชี้แจ้งแล้ว ส่วนที่หยุดเป็นการหยุดชั่วคราวเพื่อตรวจสอบเท่านั้นเพื่อตรวจสอบข้อมูล และหลังจากส่วนกลางได้แจ้งว่าไม่ได้มีปัญหา ขณะนี้ก็ได้เริ่มดำเนินการฉีดต่อแล้ว และจากการติดตามข้อมูลที่จังหวัดลำปางก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดและรพ.ต่างๆ ยังฉีดวัคซีนต่อเนื่อง
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า การฉีดวัคซีนยังเดินหน้าต่อไป โดยวันอังคารที่ผ่านมา มีการประชุมคณะทำงานพิจารณาแนวทางการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมของประเทศไทย โดยมี นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ สมาคมหอการค้าไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่ง ได้ข้อสรุปว่า ต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนมากขึ้นจากเดิมตั้งเป้า 70-80 ล้านเข็ม ก็จะเพิ่มเป็น 100 ล้านเข็ม ซึ่งขณะนี้ไทยมีวัคซีนแล้ว 65 ล้านเข็ม ที่ประชุมจึงเห็นควรว่าจะต้องจัดหาอีก 35 ล้านเข็ม (โดส) โดยมี 3 แนวทาง คือ
- แนวทางที่หนึ่งให้ภาครัฐโดยกระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม ไปเจราจัดซื้อเพิ่มเติมโดยมีความก้าวหน้าไปหลายบริษัท
- แนวทางที่สองทางภาคเอกชน ยินดีบริจาคเงินให้รัฐบาลไปจัดซื้อและฉีดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเช่นคนในโรงงาน อีก 10 ล้านโดส
- แนวทางที่สาม ทาง รพ.เอกชน เสนอว่าจะขอจัดซื้อเองและจะเอาไปฉีดให้ประชาชนกล่มเป้าหมายของเขาเอง
โดยทั้ง 3 แนวทางมีความคืบหน้า แต่การฉีดจะต้องอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน คือ มีระบบดูแลเรื่องความปลอดภัยตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด,มีระบบรายงานเชื่อมต่อกัน,การออกหนังสือรับรองและระบบติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน ภาคเอกชนก็เห็นด้วยและจะมาจัดร่วมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
