นครบาล ส่ง อคฝ. 30 นาย ช่วย รพ.ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่หลังบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด19 จำนวนมาก
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่าได้สนับสนุนกำลัง อคฝ. ไปปฏิบัติหน้าที่ เวรเปล ใน รพ.ตำรวจ จำนวน 30 นาย หลังจากโรงพยาบาลตำรวจ ได้ร้องขอกำลังสนับสนุนไปช่วยปฏิบัติงาน เนื่องจากมีบุคคลกรติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก ซึ่งทั้ง 30 นาย เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำประกันภัยวงเงินคุ้มครอง จำนวน 2 แสนบาทและฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 พร้อมจัดเจ้าหน้าที่แนะนำการปฏิบัติงาน และแนวทางป้องกันตนเองก่อนเข้าไปทำหน้าที่เวรเปล ในโรงพยาบาลตำรวจ
ซึ่งภายหลังจากทั้ง 30 นาย ปฏิบัติแล้วเสร็จต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว ตามขั้นตอน 14 วัน สำหรับตำรวจในสังกัดตำรวจนครบาล ที่ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ในขณะนี้มีจำนวน 189 นาย รักษาหายแล้ว 26 เหลือกำลังรักษาตัว 163 นายและกักตัว 573 นาย โดยส่วนใหญ่พบว่าติดเชื้อมาจากการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนกรณีที่กรุงเทพมหานคร ออกข้อกำหนด ให้ประชาชนในพื้นที่ กทม. สวมหน้ากากอนามัย ขณะออกนอกเคหะสถาน หากไม่ปฏิบัติตามปรับสูงสุด 20,000 บาท ผบช.น. ระบุว่า หากยึดตามกฎหมายต้องใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่นอกเคหสถาน แต่หากอยู่ภายในรถยนต์ต้องใช้ดุลพินิจ และขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามขั้นตอนป้องกันโควิด 19
ส่วนกรณีที่โดยสารด้วยรถประจำทางซึ่งถือเป็นพื้นที่สาธารณะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่เบื้องต้นในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการจับปรับผู้ฝ่าฝืน ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดาอดีต ผบ.ตร. ได้นำเจลแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัยจำนวน 1,000 ชุด มามอบให้กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปกระจายต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยง
ตำรวจ บช.น. สมัครใจช่วยงานเวรเปล รพ.ตำรวจ 30 นาย พร้อมเพิ่มสวัสดิการตำรวจอาสาเวรเปล
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี รพ.ตำรวจ ร้องขอกำลังพลจากหน่วยต่างๆ มาช่วยทำหน้าที่เวรเปล หลังมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้มีกำลังไม่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ ว่า มีกำลังพลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จำนวน 30 คน สมัครใจมาช่วย รพ.ตำรวจ ทำหน้าที่เหมือนจิตอาสา แบ่งเบาภาระ ทราบว่าอยู่ระหว่างอบรมขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้พร้อมทำงาน
ทั้งนี้มีสวัสดิการให้ตำรวจดังกล่าวในลักษณะทำงานกลุ่มเสี่ยง จะรีบพิจารณาฉีดวัคซีน จะถือว่าท่านเป็นผู้ทำงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ มีจิตใจเข้มแข็งเวลาพิจารณาขั้นประจำปีต่างๆ ก็อาจจะได้สิทธิเป็นกรณีพิเศษด้วย ถือว่าท่านสมัครใจรุกรบมาช่วยงานที่มีความเสี่ยง ส่วนที่ รพ.ตำรวจ ร้องขอกำลังไปทาง บช.ก. ด้วยนั้น เห็นว่าอยู่ระหว่างการปรับแผนรับผู้สมัครใจ มีแผนการเข้าเวรทำงาน เวรพัก และจัดหาสถานที่พักหลังเลิกงานให้แยกจากผู้อื่น เพื่อลดการแพร่เชื้อ
สำหรับกรณีก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า เป็นการบังคับกำลังพลให้มาทำหน้าที่เวรเปล พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนั้นผู้บังคับบัญชายังไม่ได้ทำความเข้าใจอาจมีแค่บางคนที่ไม่เต็มใจ แต่เมื่อผู้บังคับบัญชามาพิจารณาอีกครั้ง จึงเน้นความสมัครใจน่าจะเหมาะสมกว่า และเป็นแนวทางที่ดีหากมองอีกแง่หนึ่ง เป็นโอกาสที่จะทำความดีในช่วงวิกฤติชาติ อะไรที่ช่วยกันได้ ก็จะเป็นความภูมิใจในภายหลัง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้คำแนะนำว่า หากจิตอาสาที่มีทักษะจะมาช่วย รพ.ตำรวจ หรือศูนย์รับแจ้งเหตุ ก็ได้ ซึ่งจะมีการประชุมหารืออีกครั้ง สำหรับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ที่จะไปช่วยสนับสนุนรับแจ้งเหตุผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีคู่สายหน่วยงานหลักเต็ม คาดว่า ผบ.ตร. จะแถลงความชัดเจนในวันพุธ ช่วงเช้า เพื่อกำหนดขั้นตอน ว่าจะเริ่มสนับสนุนได้เมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมจาก บช.น. ว่า สำหรับตำรวจที่อาสามาช่วยงานพลเปล จะได้รับสวัสดิการเพิ่มเติม คือ 1.จัดทำประกันโควิด ทุนประกัน 200,000 บาท 2.พิจารณา 2 ขั้น และ 3.เบี้ยเลี้ยงพิเศษ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news