ลุยตรวจโควิดชุมชนพบคลองเตยป่วยพุ่ง304
ศบค. ย้ำจำเป็นประกาศงดนั่งทานอาหารในร้าน จ่อหารือปูพรมตรวจเชื้อในชุมชน พร้อมคัดกรองความรุนแรงของอาการ
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยว่า ที่ประชุมได้ชี้แจงถึงสาเหตุการปิดไม่ให้รับประทานอาหารในร้านเนื่องจากเป็นแหล่งแพร่ระบาดอีกแหล่งหนึ่ง และจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานครค่อนข้างสูง จึงมีความเป็นห่วงในเรื่องการจัดสรรทรัพยากรทางด้านสาธารณสุข ที่จะดูแลประชาชนให้ปลอดภัย จึงจำเป็นต้องออกมาตรการเข้มข้นสูงสุด คือ การไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารในร้าน แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายตามมา
ส่วนสถานการณ์พื้นที่ชุมชนคลองเตย ได้มีการหารือในที่ประชุม และมีการรายงานผู้ติดเชื้อในการค้นหาเชิงรุก โดยเป้าหมายในชุมชนพื้นที่คลองเตยจะมุ่งเป้าไปที่ 39 ชุมชน ทั้งชุมชนเมือง ชุมชนแออัด และชุมชนที่อยู่ในเคหะฯ ซึ่งในปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อผลตรวจเป็นบวกจำนวน 304 ราย โดย 193 ราย อยู่ในชุมชนแออัด ซึ่งหน่วยงานได้ช่วยเหลือโดยการนำผู้ป่วยทั้งหมดเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพบผู้ติดเชื้ออยู่ใน 3 จุดหลัก คือ อยู่ในชุมชนพัฒนาใหม่ การมีการตรวจ 411 รายพบผู้ติดเชื้อ 49 ราย, ชุมชน 70 ไร่ มีการตรวจ 436 ราย พบผู้ติดเชื้อ 21 ราย และชุมชนริมคลองวัดสะพาน ตรวจทั้งสิ้น 489 ราย พบผู้ติดเชื้อ 29 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขรายงานมาเมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 โดยปัจจุบันมีการจัดตั้งศูนย์พักคอยที่วัดสะพาน สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ไม่มีโรคประจำตัวอยู่ในระดับสีเขียว โดยหากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการทางระบบหายใจ ศูนย์เอราวัณจะทำหน้าที่จัดหาเตียงให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการหารือเรื่องสถานการณ์ในชุมชนบ่อนไก่และชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ หลังมีพระราชทานชีวนิรภัยเข้าพื้นที่ตรวจ ซึ่งพบผู้ป่วยยืนยัน 60 ราย โดยทางศูนย์บริการสาธารณสุขได้มีการจัดการเกี่ยวกับชุมชนคลองเตย โดยปัจจัยเสี่ยงคือ ผู้ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง, ติดเชื้อในครอบครัว และมีงานสังสรรค์สงกรานต์ในชุมชน
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการหารือเรื่องการปูพรมตรวจเชื้อในชุมชน การจัดการเมื่อตรวจพบผู้ป่วยและเมื่อมีการคัดแยกความรุนแรงของอาการ มีการหารือในเรื่องการคัดกรองเชิงลึกในพื้นที่ต่างๆ และจัดการนำประชาชนที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news