ผบ.ตร. สั่งตรึงเข้มแนวชายแดนป้องกันขนแรงงานต่างด้าว นำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ในไทย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการ ให้เข้มงวดเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่เชื้อในประเทศไทย ตนจึงได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือ วิทยุฯกำชับให้ทุกหน่วยประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความเข้มในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ให้เพิ่มความเข้มการเฝ้าระวังและสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งการตั้งจุดตรวจพื้นที่แนวชายแดนและจุดตรวจสกัดกั้นพื้นที่ตอนใน, ให้จัดทำแผนการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่เป็นรูปธรรมให้มีการวิเคราะห์จุดยุทธศาสตร์ เพื่อตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ที่สามารถครอบคลุมการสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรทั้งทางเท้า ทางรถ และทางน้ำ มีการจัดกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นยานพาหนะให้เพียงพอได้ตลอด 24 ชม.
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้มีคำสั่งเรื่องแนวทางการกักกันแรงงานต่างด้าวและผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองในสถานที่กักกักรูปแบบเฉพาะองค์กรของ บช.ตชด.จำนวน 14 แห่ง ในพื้นที่ 10จังหวัด อาทิ กรณีเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เพียงข้อหาเดียว ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522ให้ส่งตัวผู้ถูกจับเข้ากักกันในสถานที่กักกันทันที และให้ผู้จับดำเนินการลงบันประจำวัน ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่จับกุมไว้เป็นหลักฐานเมื่อครบระยะเวลากักกันตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนดแล้วให้ประสานแจ้ง ตม.จว.เพื่อผลักดันออกนอกราชอาณาจักร นอกจาก 10 จังหวัดหาก สตม. พิจารณาเห็นว่าก่อนส่งตัวคนต่างด้าวกลับประเทศต้นทางควรจะกักตัวในสถานที่กักกันให้ประสานสถานที่กักกันนั้นๆ เพื่อให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาเป็นกรณีไป พร้อมทั้งให้ บช.ตชด.ดำเนินการจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา ผู้ถูกกักกัน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในบริเวณสถานที่กักกัน หากกำลังไม่เพียงพอให้ขอสนับสนุนไปยัง ผบก.ภ.จว.ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้มีความพร้อมในการรับตัวผู้เข้ากักกันได้ตลอด 24 ชม.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news