Home
|
ข่าว

เชลซี เสียท่าพ่าย อาร์เซนอล คาบ้าน 0-1

Featured Image
เชลซี พลาดท่าพ่าย อาร์เซนอล คาบ้านตัวเอง 0-1 รั้งอันดับ 4 ตามเดิม  ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ระหว่าาง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี อันดับ 4 ของตาราง เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อันดับ 9 ของตาราง

เจ้าบ้าน โรเตชั่นหลายตำแหน่งจากเกมชนะแมนฯ ซิตี้ เกมนี้ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ได้โอกาสเฝ้าเสา แดนกลาง บิลลี กิลมอร์ ได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องจับคู่ จอร์จินโญ แนวรุก เมสัน เมาท์ กลับมายืนตัวจริงร่วมกับ คริสเตียน พูลิซิช และ ไค ฮาแวร์ตซ์

ทางฝั่ง อาร์เซนอล ใช้ กาเบรียล มากัลเญส คุมแนวรับร่วมกับ เปาโบ มารี แนวรุกจัดเต็ม บูกาโย ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, เอมิล สมิธ-โรว์ โดยใช้  ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เป็นดาวยิงตัวเป้า

ผลปรากำว่า ครึ่งแรก นาทีที่ 11 เชลซีได้ลุ้นขึ้นนำ จากจังหวะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ฉกบอลจาก ปาโมล มารี มาได้ ก่อนพาบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่ดันซัดข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

จากนั้นนาทีที่ 16 กลายเป็น อาร์เซนอล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ จอร์จินโญ กองกลางของเชลซี ส่งบอลคืนหลังไม่ดี บอลจะเข้าประตูตัวเอง เกปา อาร์ริซาบาลากา โกลของเชลซี วิ่งมาปัดบอลไปเข้าทาง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง จ่ายย้อนมาให้ เอมิล สมิธ โรว์ ยิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย

ถึงนาทีที่ 28 เชลซีน่าตีเสมอ เมื่อ ไค ฮาเวิร์ตซ์ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจ่ายต่อให้ เมสัน เมาท์ ซัดเน้นๆ แต่ แบรนด์ เลโน โกลของอาร์เซนอล เซฟออกไปได้ จบครึ่งแรก อาร์เซนอล บุกมานำเชลซี 1-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 67 โอกาสของอาร์เซนอล เมื่อ มาร์ติน โอเดการ์ด ตอกส้นให้ เฮคเตอร์ เบเยริน ซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่บอลพุ่งตรงตัว เกปา อาร์ริซาบาลากา

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+1 เชลซีได้ลุ้นสองจังหวะติดๆ เริ่มจาก เคิร์ต ซูมา ได้ขึ้นโหม่ง แบรนด์ เลโน ปัดไปชนคาน บอลมาเข้าทาง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ วอลเลย์เน้นๆ บอลก็ไปชนคานอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี แพ้ อาร์เซนอล 0-1 ทำให้ เชลซี มี 64 คะแนน รั้งอันดับ 4 ตามเดิม ส่วน อาร์เซนอล มีเพิ่มเป็น 55 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 8

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube