“ไทยไม่ทน” จี้ ผบ.ทบ.ลาออก สว. หยุดค้ำอำนาจให้ “ประยุทธ์” ซึ่งมีที่มาไม่ชอบธรรม “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ลงมาจัดการบริหารวัคซีน สะท้อนรัฐบาลบริหารงานผิดพลาด
กลุ่มไทยไม่ทน “คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์, นายจตุพร พรหมพันธ์, นายวีระ สมความคิด, นายเมธา มาสขาว, นายไทกร พลสุวรรณ, นางพะเยาว์ อัคฮาด, หมู่อาร์ม ส.อ.ณรงค์ชัย, กุ๊ก นายนันทพงษ์ ปานมาศ ฯลฯ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้ลาออกจากการเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง เพื่อกดดันให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแก้วิกฤตชาติบ้านเมือง โดยมีร.ต.บุญโชค นามศรี นายทหารเวรประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบกรับหนังสื่อ
นายจตุพร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเปิดทางให้ ผบ.ทบ. ได้ใช้เวลาทั้งหมดทำหน้าที่หลักควบคุมดูแลบังคับบัญชากำลังพลของกองทัพบกในการป้องกันรักษาความมั่นคงของประเทศ คณะสามัคคีประชาชนฯ เชื่อมั่นว่า ผบ.เหล่าทัพ สามารถลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (3) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งจะไม่เป็นที่ครหาทางการเมือง ในการใช้กองทัพไปค้ำอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีที่มาทางการเมืองไม่ชอบธรรม ขัดหลักจริยธรรมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้นการลาออกดังกล่าว ย่อมแสดงถึงจุดยืนอันมั่นคงตามหลักประชาธิปไตย และมุ่งรับใช้ประชาชนมากกว่าไปคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนตนของพล.อ.ประยุทธ์
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ในการแก้ไขสถานการณ์ โควิด-19 ยังสะท้อนให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ประสบความล้มเหลวจนกระทั่ง สถาบันวิทยาลัยจุฬาภรณ์ต้องลงมือจัดการเองในการบริหารจัดการวัคซีน สะท้อนอย่างชัดเจนว่ารัฐบาล และพลเอกประยุทธ์ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นอกจากนั้นยังไม่รักษาวาจาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ตั้งแต่เคยสัญญาว่าจะไม่ปฏิวัติในที่สุดก็ปฏิวัติรวมไปถึงการสืบทอดอำนาจ อีกทั้งการป้องกันการปราบปรามการทุจริตที่ได้บอกว่าจะเข้าล้างสิ่งเหล่านี้ให้หมดไป
สำหรับวันศุกร์ที่ 28 พ.ค. เวลา 10.00 น. กลุ่มไทยไม่ทน จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในวันที่ 1 มิ.ย.2564 เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news