Home
|
ข่าว

ลต.อบจ.วัดเรตติ้ง“ลุง”

Featured Image

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายเหลืออีก2วันสำหรับการเลือกตั้ง อบจ.วันอาทิตย์ ที่20ธ.ค.ที่ถือเป็นการกลับมาสู่การเลือกตั้งสนามเล็กครั้งแรกในรอบ6ปี นับแต่มีการรัฐประหารเมื่อปี2557 และมีรัฐบาลลุงยิงยาวมาถึงปัจจุบัน ซึ่งการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะเกิดการใช้สิทธิพร้อมกันทั้งประเทศ ที่สำคัญคือถือเป็นครั้งแรกที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่มีอายุ 18-26 ปี ได้มีโอกาสใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่นหลังจากมีการเลือกตั้งไปครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 2555 ที่แม้กกต.จะกำหนดวันแบบแปลก ๆ คือใกล้วันหยุดปีใหม่ให้คนทำงานไกลบ้านลำบากที่จะกลับไปเลือกตั้ง แถมไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า หรือนอกเขต ก็ตาม และถือเป็นครั้งแรกที่บรรดาผู้สมัครมีการเปิดตัว สวมเสื้อพรรคการเมือง ลงสู่สนามเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ มีการหาเสียงแบบจริงจัง ทั้งเดินลงพื้นที่ทั้งเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เป็นเรื่องเป็นราวแบบการเลือกตั้ง ส.ส. โดย พรรคเพื่อไทย (พท.) ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 25 จังหวัด และคณะก้าวหน้าส่ง 42 จังหวัด แม้บางห้วงเวลาจะโดนกระแสลูกพ่วงจากประเด็นหนุนเด็กทะลุเพดาน ที่มีการจัดม็อบชาวบ้านมาตะโกนด่า หรือมีรถเครื่องเสียงมาเปิดเพลงหนักแผ่นดินก่อกวนรวมถึงถูกชาวบ้านตัวจริงรุมด่าทอในการเดินตลาด ขณะฝั่งรัฐบาล พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย มีสนับสนุนบางกลุ่มบางผู้สมัครแต่ละจังหวัดในทางอ้อมบ้าง น่าสนใจว่าสนามการเลือกตั้ง อบจ.หนนี้ นอกจากทางกายภาพ จะถูกจับตาถึงการเคลื่อนไหวของคณะก้าวหน้าของธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ที่เดินสายหาเสียงให้ผู้สมัคร 42 จังหวัดแบบจริงจัง ถึงขนาดมีการแสดงความมั่นใจในโซนภาคเหนือ และ อีสาน ว่า ผู้สมัครของกลุ่มจะได้รับการเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่ใช่สนามการเมืองใหญ่ อีกทั้งสโคปอำนาจของ อบจ.ก็อยู่ในระดับที่ถูกคุมอีกชั้นจากศูนย์อำนาจส่วนกลางโดยนายกฯอบจ.มีเพียงการรับหน้าที่ฝ่ายบริหาร ทั้งจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น, จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี และรายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบให้สภาท้องถิ่นทราบ ขณะที่ สมาชิก อบจ. เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกข้อบัญญัติที่ใช้ในท้องถิ่น เช่น การจัดการขยะ ประปา, ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาท้องถิ่น, ให้ความเห็นชอบงบ และตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติงานของผู้บริหารท้องถิ่น เรียกว่าโดยพื้นที่ก็อยู่ในระดับจังหวัดไม่มีบทบาทขับเคลื่อนการเมืองในระดับชาติได้เหมือนส.ส.ที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ธนาธรและคณะ ก็ยังเอาจริงเอาจังกับสนามนี้ด้วยการประกาศที่จะพลิกเปลี่ยนให้โครงสร้างการเมืองท้องถิ่นนี้ยกระดับความสำคัญขึ้นมา ด้วยการหาเสียงแบบใช้นโยบายดึงประชาชนให้เลิกสนับสนุนวิถีการเมืองเดิมแบบบ้านใหญ่ในจังหวัดนั้นๆ ที่มีการประเมินจากเกจิการเมืองว่าผลการเลือกตั้ง อบจ.20ธ.ค.หนนี้ จะถูกยกระดับนำไปเป็นตัวชี้วัดทางการเมืองระดับชาติอย่างมีนัยสำคัญหากปรากฏการณ์ของคณะก้าวหน้าทำให้เกิด สถานการณ์ แบบบ้านใหญ่ถูกทำลาย โดยกลุ่มคณะก้าวหน้า ในผลลัพธ์แบบ ได้จำนวน อบจ. มามากกว่าที่คิด หรือแม้ ได้เล็กน้อย หรือไม่ได้มาเลยทั้ง 42 จังหวัดที่ส่ง แต่ถ้าผลคะแนนรวมทั่วประเทศมาจำนวนมาก ตัวนี้แหละ ที่จะเป็นตัวชีวัดการเมืองระดับชาติ ทำนองไม่ว่าธนาธรจะ ชนะ หรือ ดูเหมือนจะแพ้แต่ชนะ การเมืองใหญ่ ที่3ป.กุมสภาพจากศูนย์อำนาจก็จะกระเพื่อม เพราะฝ่ายอำนาจน่าจะต้องคิดหนัก และต้องขยับปรับแผนรับมือสถานการณ์การเมืองถัดไปในต้นเดือนมกราคมปีหน้าที่จะมีศึกซักฟอกเปิดแผลเก่าลุงเรื่องการบริหารงานที่ยังแก้ไม่ตกเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาทุจริตถึงขนาดปปช.ออกมาบอกว่าใน 3 ปีของรัฐบาลคสช. มีการทุจริตสูงมากกว่าที่ผ่านมา และยิ่งตอกย้ำกับกลิ่นตุ ๆ ล่าสุด จากปมการทุจริตจากช่องว่างการแจกโปรคนละครึ่งและเที่ยวด้วยกันที่กระแสมาแรง และได้รับคำชมว่าดีมากจนลุงแอ่นอกเลยว่าเป็นคนคิดเอง ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามต่อว่าลุงแม้จะเหมือนว่าจะสัมฤทธิ์ในการสะกดการเมืองบนถนนไว้ได้จากกระแสโควิดเฟส2และ ปฏิบัติการแปะผ้ายันต์กันเด็กไว้ได้ด้วย ม.112 แต่ก็ยังมีประปรายที่ฝ่ายความมั่นคงและลุงยังไม่ประมาท จากร่องรอยการพร้อมกระเพื่อมของเด็ก แบบที่มีภาพเด็กไปขึงผ้าเรียกร้องให้เลิก ม.112 กลางห้างสยามพารากอนเมื่อวาน(17ธ.ค.) ที่แน่นอนหากลุงเพลี่ยงพล้ำในจังหวะการเมืองหรือมีตัวชี้วัดให้เห็นว่าเรตติ้งตกอย่างเช่นผลเลือกตั้ง อบจ.ที่จะออกมาเมื่อไหร่ ม็อบเด็กก็น่าจะพร้อมกลับมาไล่ลุงอีกแน่.

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube