พิจารณ์ เสนอตัดงบฯกระทรวงกลาโหม ในส่วน ทบ.-ทอ.-ทร. เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมขอภท.ลงมติคำนึงถึงปชช.ตามที่อภิปรายไว้
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ว่า วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรก เพื่อเสนอให้ ลด ตัดและ เลื่อน งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในส่วนของกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อนำงบประมาณส่วนดังกล่าวจัดสวัสดิการให้ประชาชน
โดยควรลดงบซื้ออาวุธ จะมีงบเพื่อสวัสดิการประมาณ3,400 ล้านบาท ควรตัดการซื้อยุทธภัณฑ์ข้ามปี จะได้งบเพิ่ม 1,800 ล้านบาท และตัดภาระได้กว่า 7,300 ล้านบาท และควรเลื่อนงบซื้ออาวุธ ที่เป็นโครงการผูกพันข้ามปี กว่า 70 โครงการ เป็นงบประมาณ 2,600 ล้านบาท ควรเลื่อนการชำระค่ายุทโธปกรณ์ รวมกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท เพื่อให้มีงบสวัสดิการเพื่อประชาชนเพิ่มขึ้น 2.4 หมื่นล้านบาท พร้อมเสนอให้ลดงบประมาณด้านแผนงานด้านบุคลากร ของกระทรวงกลาโหม เช่นเดียวกับ กองทัพอากาศ ที่มีงบบุคลากร เพียง 35% จะทำให้งบส่วนของบุคลากร ลดได้มากถึง 3 หมื่นล้านบาทต่อปีงบประมาณ และมีเงินมากพอที่จะจัดซื้ออาวุธ หรือดำเนินการด้านต่างๆ ทั้งนี้ก่อนลดจำนวนบุคลากร ก่อนเกษียณอายุราชการ ต้องจัดงบเพื่อฝึกอาชีพก่อนเกษียณตามอายุราชการ
ทั้งนี้ ในการอภิปรายงบฯ 65 พบว่า ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เป็นห่วงที่งบกระทรวงสาธารณสุขถูกปรับลด แต่ไม่ใช่ว่าห่วงงบถูกปรับลด แล้วจะยกมือผ่าน หรือทำตัวเป็นเด็กดื้อ งอแง แต่พอได้รถไฟฟ้าเป็นของเล่น ยกมือผ่านให้ ซึ่งตนยืนยันว่าการโหวตคว่ำ คือวิธีที่รวบรัดที่สุดเพื่อคืนงบประมาณให้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นการพาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคืนบ้านที่อบอุ่น และส่งพลเอกประยุทธ์ กลับบ้านเก่า
โดยหลังจากที่นายพิจารณ์ อภิปรายจบ นายสนอง เทพอักษณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงและขอให้ถอนคำพูดว่า พรรคภูมิใจไทยทำตัวเป็นเด็กงอแง พร้อมชี้แจงว่าส.ส.ทุกคนมีเอกสิทธิ์ และหน้าที่ปฏิบัติต้องปฏิบัติเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง จะตัดสินใจในทางที่ถูกต้องและดีที่สุด ไม่มีการชี้นำ นายพิจารณ์จึงถอนคำพูด และเปลี่ยนเป็นคำว่า “ขอให้ลงมติคำนึงถึงประชาชน ตามที่ได้อภิปรายไว้”แทน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
