จับหนุ่มสิงคโปร์ ซุกไอซ์ 3 กก. ในเครื่องเสียงส่งออก พบทำมากว่า 10 ครั้ง – ยันกฎหมายไทยเอาผิดได้ทั้งในและต่างประเทศ
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. และ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเถ่า ซื่อ จี้ อายุ 27 ปี ชาวสิงคโปร์ ผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดออกนอกประเทศ พร้อมยึดของกลางไอซ์น้ำหนัก 3 กก.และเอ็กตาซี่ ส่วนผสมของสารเสพติดจำนวน 1,320 เม็ด ถูกยึดได้ที่ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ก่อนสืบสวนจนพบว่าผู้หาเป็นผู้ส่งพัสดุดังกล่าว จึงได้เข้าตรวจค้นจับกุมที่ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งและตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด อาทิ เครื่องขยายเสียงชนิดเดียวกับที่ยึดได้พร้อมยาเสพติด รวมถึง อุปกรณ์การหีบห่อ เครื่องชั่งดิจิตอล และอีกหลายรายการ จากการสืบสวนพบว่าเครือข่าย นายเถ่า ซื่อ จี้ ทำมาตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2563 รวมแล้วกว่า 10 ครั้ง จากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทำการยึดทรัพย์ต่อไป
ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงสถานการณ์การลักลอบขนยาเสพติดออกนอกประเทศในช่วงนี้ โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม จับกุมได้ 3-4 ครั้ง โดยยอมรับว่าจากข้อมูลเป็นเรื่องปกติที่มีการลักลอบ เนื่องจากไทยเป็นประเทศส่งออกสินค้า โดยท่าเรือที่แหลมฉบังมีตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกวันละ 2 หมื่นตู้ และท่าเรือกรุงเทพ กว่า 4 พัน รวมแล้วกว่า 2.4 หมื่นตู้ การที่นักค้ายาเสพติดจะอาศัยความหนาแน่นดังกล่าวก็ทำให้ยาเสพติดเล็ดลอดออกไปได้ โดยกรมศุลกากรได้สั่งการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้น และตำรวจ ร่วมกับ ปปส. ได้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจประจำที่ท่าเรือแหลมฉบังเพื่อดูแลและสกัดกั้น
ส่วนการลักลอบขนส่งทางท่าอากาศมีพัสดุขนาดเล็กส่งออกมากกว่าวันละ 1 แสนชิ้น จากข้อมูลตั้งแต่เดือน มกราคมถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม สกัดจับได้กว่า 20 ตัน หากเทียบกับที่หลุดออกไปได้ 300 กว่ากิโลกรัมถือว่าน้อยมาก
สำหรับการดำเนินคดียาเสพติดระหว่างประเทศ ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมที่ประเทศปลายทางหรือจับกุมที่ไทยแต่มีความเชื่อมกับเครือข่ายต่างประเทศ ก็มีกฎหมายที่ดำเนินการได้อยู่แล้ว โดยคดีลักษณะนี้อัยการสูงสุดมีอำนาจในการฟ้องดำเนินคดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news