กมธ.งบฯฝ่ายค้าน รับหนังสือ เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ขอทบทวน จัดลำดับความสำคัญนโยบายสวัสดิการสังคม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รับยื่นหนังสือจาก นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (เครือข่าย We Fair) และคณะ เพื่อขอให้คณะ กมธ. จัดลำดับความสำคัญนโยบายสวัสดิการสังคมและสุขภาวะ โดยทางเครือข่ายฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. แล้วเห็นว่า การจัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขาดการจัดลำดับความสำคัญในการสร้างสังคมรัฐสวัสดิการ และมีข้อสังเกตต่อร่าง พ.ร.บ. ดังนี้
1.งบประมาณสวัสดิการสังคมประชาชนถูกปรับลดลง อาทิ งบประมาณกระทรวงที่ดูแลสวัสดิการสังคม และงบประมาณสวัสดิการเงินอุดหนุนที่ไม่มีการปรับเพิ่มและไม่ครอบคลุมระบบถ้วนหน้าทุกประเภท
2.งบประมาณสวัสดิการข้าราชการเพิ่มขึ้น ในขณะที่งบประมาณสวัสดิการประชาชนและงบประมาณประเทศถูกปรับลดลง
3.งบประมาณกระทรวงกลาโหมสูงเป็นอันดับ 4 ซึ่งสะท้อนถึงความผิดพลาดในการจัดลำดับความสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยจัดสรรงบประมาณกระทรวงกลาโหม ด้วยวงเงินงบประมาณคิดเป็นร้อยละ 6.6 ของงบประมาณประเทศ และเป็นงบบุคลากรที่เพิ่มขึ้นถึง 1,741 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับงบบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ที่ลดลงร้อยละ 1.33 และงบบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ลดลงร้อยละ 6 จึงแสดงว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับกำลังพลกองทัพ มากกว่ากำลังคนภาคสาธารณสุขและการศึกษา
ด้าน กมธ. ได้กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรนั้นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองและเกิดความเหลื่อมล้ำ โดยจะได้หารือในคณะ กมธ. ให้เห็นถึงความสำคัญของรัฐสวัสดิการ และกระจายงบประมาณให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และนำงบประมาณไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตัวแทนพรรคฝ่ายค้านในคณะ กมธ. จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news