โคราช ชวนชิมทุเรียนเสิงสาง หอม หวาน กลิ่นไม่ฉุน ของดีเมืองโคราช สร้างรายได้ปีละ 100 ล้าน
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เชิญชวนประชาชนที่สนใจ และมีความชอบในทุเรียน อุดหนุนผลผลิตทุเรียนของเกษตรกรตำบลเสิงสาง ซึ่งทางอำเภอเสิงสางร่วมกับ อบต.เสิงสาง สำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสาง ลงพื้นที่สำรวจ แปลงทุเรียน และผลผลิตทุเรียนของเกษตรกร ผู้ที่ปลูกทุเรียนในพื้นที่ตำบลเสิงสาง เพื่อสำรวจผลผลิตที่กำลังจะออกผลผลิตในเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม 2564 นี้
สำหรับสวนทุเรียนในพื้นที่ตำบลเสิงสางที่ จากการลงพื้นที่สำรวจ พบมีจำนวนกว่า 1,000 ไร่ โดยทุเรียนจะออกผลผลิตในเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ปัจจุบันมีต้นทุเรียนที่ออกผลผลิตสามารถเก็บขายได้แล้ว จำนวน 200 ไร่ ของเกษตรกรทั้งหมด 15 ราย ซึ่งใน 15 รายนี้ อยู่ในช่วงกำลังยื่นขอใบรับรองแหล่งผลิต gap เพื่อเป็นการรับรองมาตรฐานในการเพาะปลูก ส่วนผลผลิตที่คาดว่าจะได้ ออกมาให้ผู้ที่สนใจได้ชิมมีอยู่ประมาณ 25 ตัน ราคาขายที่กิโลกรัมละ 120-150 บาท
โดยเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนส่วนใหญ่เคยปลูกมันสำปะหลังมาก่อน แต่ด้วยความที่ราคา มันสําปะหลังได้ราคาที่ต่ำ และไม่แน่นอน จึงหันมาปลูกทุเรียนกัน ซึ่งสายพันธุ์ทุเรียนที่ปลูกกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์หมอนทอง อายุประมาณ 4 ปี ถึงจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตกัน ซึ่งในขณะนี้บางส่วนก็มี ผู้มาปักชื่อจองทุเรียนเอาไว้ถึงต้น จนเกือบจะหมดสวนแล้ว แม้ทุเรียนยังไม่แก่เต็มที่
ทางด้านนายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า ทุเรียนของอำเภอเสิงสางนั้น มีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือ เนื้อละเอียดเป็นครีม และกลิ่นไม่แรง แตกต่างจากทางภาคใต้ ภาคตะวันออก เนื่องจากมีกรดกำมะถันน้อย ก่อให้เกิดความร้อนน้อยกว่าทุเรียนทางภาคอื่นๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่รับประทานเข้าไปก็จะมีอาการเรอได้น้อย ทำให้ทุเรียนของอำเภอเสิงสางกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
ทั้งนี้ ล่าสุดที่อำเภอเสิงสาง มีเกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนเป็นพืชหลักในพื้นที่ 6 ตำบล รวมเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ และกำลังให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาดแล้วกว่า 200 ไร่ และขณะนี้ทางอำเภอเตรียมที่จะผลักดันการปลูกทุเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นในรูปแบบของเกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งคาดการณ์ว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้าทุเรียนเสิงสาง จะสร้างรายได้เข้าพื้นที่ปี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news