ดอน เตรียมเข้าประชุม MLC ครั้งที่ 6 ที่ นครฉงซิ่ง หารือสถานการณ์ในเมียนมา ยืนยันไทยพร้อมผลักดันให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกันโดยสันติวิธี
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าร่วมประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2564 ณ นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยจะมีการพบหารือทวิภาคีกับมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อหารือในประเด็นทวิภาคีและสถานการณ์ในภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งขณะนี้อาเซียนถูกวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในการดำเนินการแก้ปัญหาในเมียนมา กว่า 1เดือน หลังมีการประชุมผู้นำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา เมื่อ 28 เมษายน 2564 และมีข้อตกลงในรูปแบบของฉันทามติ 5 ข้อ
ซึ่งไทยประสงค์ให้มีการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อที่ที่ประชุมผู้นำอาเซียนได้เห็นพ้องกันอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการแต่งตั้งผู้แทนพิเศษของอาเซียน และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอาเซียนกำลังหารือรายละเอียดเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังหวังว่าประชาคมโลกและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา จะให้การสนับสนุนกระบวนการขับเคลื่อนของอาเซียนดังกล่าวด้วย
สำหรับในส่วนของประเทศไทย ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้มีการแก้ปัญหาในเมียนมา แม้สถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมาจะเกิดขึ้นมากว่า 4 เดือนแล้ว ทั้งที่ไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้าน และถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับฝ่ายต่าง ๆ ในเมียนมา รวมถึงกองทัพเมียนมานั้น นายธานี ยืนยันว่า ไทยตระหนักดีถึงความคาดหวังของประชาคมระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันในฐานะบ้านใกล้เรือนเคียง ได้ตระหนักถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ในเมียนมาเช่นกัน โดยไทยได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและมีความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของเมียนมา และเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความรุนแรง
ที่ผ่านมา ไทยได้เรียกร้องผ่านช่องทางต่าง ๆ มาโดยตลอดให้มีการคลี่คลายสถานการณ์ ยุติความรุนแรง ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง และขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางออกร่วมกันโดยสันติวิธีด้วยการพูดคุยกันผ่านช่องทางที่สร้างสรรค์ใด ๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยให้ความสำคัญ และก็จะยังคงสนับสนุนและผลักดันให้มีความคืบหน้าในเรื่องเหล่านี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของไทยหลายเรื่องอาจไม่ได้ประกาศให้สาธารณชนทราบ เนื่องจากเรายึดแนวทางการทูตแบบเงียบ ๆ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็เป็นแนวทางการทูตของไทยมาโดยตลอด
นายธานี ยังเน้นย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญและห่วงใยความเป็นอยู่ของประชาชนเมียนมาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดของคนไทย โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลไทยก็ได้ให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมจำนวน 5 ล้านบาท ผ่านสภากาชาดไทยไปยังสภากาชาดเมียนมา เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์แก่ประชาชนเมียนมา นอกเหนือจากโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการในเมียนมามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ซึ่งมุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชนเมียนมาเป็นหลัก ทั้งนี้ ไทยยินดีที่จะมีบทบาทช่วยสนับสนุนอย่างสร้างสรรค์เพิ่มเติมในฐานะมิตรที่ดีของทุกฝ่ายในเมียนมาและส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียน
สำหรับประเด็นการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังกะเหรี่ยงบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา อันเป็นเหตุให้มีประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากข้ามมาฝั่งไทย บริเวณชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อหลบหนีความไม่สงบนั้น นายธานีฯ ยืนยันว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาเป็นเรื่องสำคัญและมีผลโดยตรงต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ในทั้งสองฝั่ง ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมาร่วมมือกันรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน ขณะเดียวกัน ไทยได้ให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบในเมียนมาที่เดินทางข้ามมาฝั่งไทยตามหลักการมนุษยธรรมที่ไทยยึดถือมายาวนานด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news