ช่วงวันสองวันที่ผ่านมา เราอาจจะเห็นภาพนักศึกษาจีนสาวสวย ที่มีชื่อว่า หัวจื้อปิง แต่เธอมีความพิเศษกว่าใคร เพราะคือนักศึกษาสาวเสมือนจริงที่กำเนิดจาก AI หรือปัญญาประดิษฐ์ วันนี้มาทำความรู้จักกับเธอดีกว่า เพราะถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเลยทีเดียว
AI คืออะไร?
AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือภาษาไทยใช้คำว่าปัญญาประดิษฐ์ ระบบที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้วิเคราะห์ ให้มีความฉลาดเหมือนมนุษย์ AI นั้นถูกใช้มากมาย ไม่ว่าจะ แปลภาษา การตอบโต้อัตโนมัติ หรือจะให้เข้าใจง่ายก็คล้ายหุ่นยนต์ที่เราเห็นในหนังที่พูดคุยได้เหมือนคนเรานี่แหละ
หัวจื้อปิง ทำไมคนถึงสนใจ?
จุดเริ่มต้นของข่าวมาจากการที่ หัวจื้อปิง โพสต์ข้อความบนเว่ยป๋อ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา เธอพิมพ์ว่า “ฉันมีความหลงใหลในวรรณกรรมและศิลปะอย่างมากตั้งแต่ เกิด มา”
และด้วยรูปร่างหน้าตา เสียง องค์ประกอบทั้งหมดทำให้ทุกคนต่างสนใจว่าเธอคือใครเลยเป็นกระแสขึ้นมา
หัวจื้อปิง ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาจาก Wudao 2.0 ระบบสร้างแบบจำลองปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำ ที่ใช้ตัวแปรมากกว่า 1.75 ล้านล้านรายการ ที่มากขนาดนี้เพราะระบบสามารถจำลองสนทนา เขียนบทกวี เข้าใจความหมายของภาพได้
ซึ่งผลการทดสอบก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบทกวี บทกลอน สรุปข้อความ ตอบคำถาม วาดภาพ
จากเหตุผลทั้งหมดเลยทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจในแง่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขนาดนี้
อนาคตของ หัวจื้อปิง
เธอยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องล่าสุดเธอได้โพสต์ว่า
“ฉันเริ่มสนใจการเกิดของตนเองว่าฉันเกิดมาได้อย่างไรและฉันสามารถเข้าใจตัวเองได้ไหม” ข้อความของหัวบนเว่ยป๋อ พร้อมบอกว่าเธอจะเรียนภายใต้การอบรมสั่งสอนของถัง(ผู้พัฒนา)และกำลังแข่งกับเวลาเพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเองทุกวันในหลายด้าน เช่น ศักยภาพการให้เหตุผลเชิงตรรกะ”
ผู้พัฒนากล่าวว่า หัวจื้อปิง จะเติบโตและเรียนรู้ได้เร็วกว่านักศึกษาที่เป็นมนุษย์ทั่วไป หากเริ่มเรียนที่ระดับเดียวกับเด็ก 6 ขวบในปีนี้ ก็จะเรียนจนถึงระดับเด็ก 12 ขวบในอีก 1 ปีข้างหน้า เรียกว่าไวมากๆเลยทีเดียว
AI นั้นมีความน่าสนใจมากมาย เช่น แอลฟาโกะ AI ที่โค่นเซียนโกะระดับโลกแบบราบคาบ และคาดว่าอนาคต AI ก็จะเข้ามามีบทบาทกับโลกนี้มากขึ้น จนอาจจะทำงานแทนมนุษย์ในหลายๆอาชีพเลยทีเดียว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news