เพื่อไทย เสวนา “ภูเก็ต sandbox” ปลดล็อกการท่องเที่ยว จี้รัฐแสดงความจริงใจช่วยเหลือ เชื่อสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ 1 ก.ค.นี้
งานเสวนา “ภูเก็ต sandbox ปลดล็อกการท่องเที่ยวไทยหรือไม่” ที่พรรคเพื่อไทย โดยมี นายนิพนธ์ เอกวานิช ประธานกรรมการ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ร่วมสะท้อนภาพการท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ภาคธุรกิจและประชาชนต้องปรับตัวกันอย่างมาก จึงทำให้มีความเสียหายเกิดขึ้นหลายแสนล้าน ทั้งนี้จึงต้องพยายามหาทางออก ข้อเสนอโครงการ “ภูเก็ต Sandbox” คือ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดส และมีการตรวจเชื้อแล้ว เข้ามาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ก่อน 7 วัน ซึ่งสามารถไปท่องเที่ยวทั้งจังหวัด เมื่อครบ7วันแล้วนักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางออกไปยังจังหวัดอื่นๆในประเทศไทยได้ โดยจะต้องมีการตรวจหาเชื้อก่อน ส่วนที่มีการเสนอให้เพิ่มเป็น14 วันนั้น ทำให้เกิดผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่อาจจะเกิดความสับสน ซึ่งยังไม่ได้มีความชัดเจนจาก ศบค. ว่าจะให้ดำเนินการแบบไหน ทั้งนี้ หาก จ.ภูเก็ต เปิดได้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อการท่องเที่ยว แต่ในจังหวัดต้องมีวัคซีนเพียงพอ70% ขึ้นไป และต้องมีแผนรองรับว่าหากเกิดการติดเชื้อจะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งจะต้อง บูรณาการทุกภาคส่วน
ด้าน น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคายพรรคเพื่อไทยในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ไทม์ไลน์ในการจะเปิดรับท่องเที่ยวจ.ภูเก็ตในวันที่ 1 กรกฎาคม นั้น คาดว่าจะดำเนินการได้ เพราะมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ไปแล้วกว่า 60% แต่ยังไม่มีความชัดเจนจาก ศบค. ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับการกักตัวนักท่องเที่ยวจะใช้ 7 หรือ14 วัน ซึ่งหากไม่มีความชัดเจนเช่นนี้ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้นจึงขอความชัดเจนจาก ศบค. ให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
ขณะที่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การฟื้นตัวภาคเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับความมั่นใจของนักท่องเที่ยว จึงเรียกร้องรัฐบาลแสดงความจริงใจในการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว
“ชลน่าน”ยกมาตรการสธ.กุญแจสำคัญสร้างความเชื่อมั่นได้ ชี้ เปิดรับ นักท่องเที่ยวต้องใช้การบริหารรูปแบบพิเศษ ไม่ใช่ยังใช้บังคับมาตรการของ ศบค.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ทีมนโยบายสาธารณสุขพรรคเพื่อไทย กล่าวในงานเสวนา “ภูเก็ต sandbox ปลดล็อกการท่องเที่ยวไทยหรือไม่” ที่พรรคเพื่อไทย ว่า มาตรการด้านการแพทย์สาธารณะสุขเป็นกุญแจดอกสำคัญ ถ้าสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ก็จะสามารถปลดล็อกได้ทันที ถ้าจะสร้างความมั่นใจได้
- ทุกคนต้องไม่ติดโรค ทั้งคนที่อยู่ และคนที่มาเที่ยว คือต้องมีวัคซีน ร้อยละ70 ของประชากรในพื้นที่ จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ถ้าหากมีคนป่วยสามารถดูแลได้ทันที
- การเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น มีการตรวจภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว ซึ่งมีความสำคัญและทางการแพทย์ต้อง เตรียมพร้อม
ดังนั้นภูเก็ตต้องใช้การบริหารรูปแบบพิเศษ ไม่ใช่ยังใช้บังคับมาตรการของ ศบค. อยู่ ถ้าคนภูเก็ตทั้งประชาชนและเอกชนร่วมกันบริหารแบบรูปแบบพิเศษ ก็จะทำให้เกิดภูเก็ต sandbox ได้
การจะใช้ภูเก็ต sandbox เป็นต้นแบบ รัฐบาลลงทุนน้อยมาก ที่จะใช้กับจังหวัดอื่นในภูมิภาคต่างๆ เช่น จ.หนองคาย จ.น่าน คือการลงทุนวัคซีน ซึ่งเป็นการลงทุนที่ถูกมาก หากมีวัคซีน เชื่อว่าศักยภาพของแพทย์พยาบาลพร้อมที่จะฉีดให้กับประชาชน ซึ่งถ้านำงบประมาณที่กู้มาไปใช้ลงทุนกับวัคซีนและภาคธุรกิจ จะทำให้ภาคเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วมาก
พร้อมแนะนำให้ตั้งบอร์ดบริหารภูเก็ตในรูปแบบพิเศษ นำเสนอนโยบายที่ดีที่สุด เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเอง แล้วส.ส.ในสภาจะช่วยติดตามนโยบายให้ เพราะถ้าหากรอให้รัฐบาลคิดคงช่วยอะไรไม่ได้มาก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news