ขีดเส้นตาย10วันให้12รุ่นพี่อุเทนถวายพบตร.
ผกก.สน.ปทุมวัน ยันมั่นใจในหลักฐานแม้นศ.อุเทนถวายจะเตรียมข้อมูลมาให้การกับตำรวจ ก็สามารถเอาผิดได้ – ขีดเส้นตาย 10 วัน ให้ 12 รุ่นพี่เข้าพบ
พันตำรวจเอกพันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า เอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย นำมามอบให้พนักงานสอบสวนในวันนี้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อคดี เช่น แนวทางการลงโทษ ข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสอบสวนของทางมหาวิทยาลัย, ระเบียบคำสั่งคณะกรรมการบริหารคณะวิศวกรรมฯ และ ภาพประกอบเหตุการณ์ รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษาในข้อหาบุกรุก ที่มหาวิทยาลัยระบุว่าอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างคัดแยกประเด็นในการตรวจสอบและนำมาประกอบสำนวนคดี
เบื้องต้น ผลของการตรวจสอบของคณะกรรมการยังไม่ชี้ชัดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมีจำนวนเท่าใด ซึ่งต้องใช้พยานหลักฐาน และประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุมาประกอบเพื่อพิสูจน์ทราบถึงกิจกรรมในวันเกิดเหตุ และหากกลุ่มนักศึกษาได้เตรียมคำให้การกับตำรวจเพื่อให้มีทิศทางเดียวกัน ตำรวจก็มีแนวทางการสืบสวน ขอให้มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้
ส่วนการออกหมายเรียก เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานจากกลุ่มนักศึกษาทั้ง 40 คน แต่พนักงานสอบสวนได้ขีดเส้นตายให้รุ่นพี่ 12 คน ที่ในจำนวนนี้มีผู้หญิงมากกว่า 2 คน ต้องมาพบพนักงานสอบสวนภายใน 10 วันนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่วนพยานรุ่นน้องอีก 28 คน ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนภายใน 7 วัน
ทั้งนี้ พบว่าเมื่อวานนี้ญาติของนายวีรพัฒน์ หรือน้องปลื้ม รุ่นน้องที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายจนเสียชีวิต ได้ส่งมอบโทรศัพท์ส่วนตัวให้กับตำรวจ โดยในโทรศัพท์มีข้อมูลเกี่ยวกับการแชทพูดคุยต่าง ๆ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับคดี ขณะนี้ตำรวจก็อยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาประกอบในสำนวนคดีด้วย
- น.1ยันให้ความเป็นธรรม”น้องปลื้ม”ถูกรุ่นพี่ซ้อมดับ
- ตร.จ่อตั้ง4ข้อหารุ่นพี่รุมทำร้าย”น้องปลื้ม”ดับ
- ตร.ทยอยเรียกผู้เกี่ยวข้องคดี”น้องปลื้ม”ให้ปากคำ
- เตรียมหมายจับ12รุ่นพี่โหดรุมทำร้าย”น้องปลื้ม”ดับ
- ตร.ออกหมายเรียกรุ่นพี่อุเทนถวายเข้าให้ปากคำ
- ไร้เงา12นศ.อุเทนถวายให้ปากคำตร.ปทุมวัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news