พรรคร่วมฝ่ายค้าน เห็นพ้องประชุมร่วมรัฐสภา ต้องพิจารณา พ.ร.บ.ประชามติ ให้เสร็จก่อน ค่อยเดินหน้าถกแก้ รธน.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุม พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ รัฐสภาต้องจัดให้มีการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ให้เสร็จก่อนแล้วถึงจะพิจารณาญัตติเสนอแก้ไขเพิ่มเติมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560
นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือถึงการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ทั้งหมด 5 ร่าง โดยญัตติที่เห็นพ้องเสนอร่วมกัน คือ การแก้ไขมาตรา 272 ที่มาของนายกรัฐมนตรี, ญัตติเสนอแก้ตามมาตรา 256, สิทธิเสรีภาพของประชาชน, ระบบการเลือกตั้ง, ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อำนาจ ส.ว. และการนิรโทษกรรม ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสนอ และไม่ปิดกั้นรวมถึงยินดีหากพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมลงชื่อเพื่อเสนอญัตติดังกล่าว โดยทั้ง 5 ญัตตินี้รวมถึงรายละเอียดต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้วและจะเสนอต่อประธานรัฐสภาในวันพุธ ที่ 16 มิ.ย.นี้
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำว่าไม่ต้องการร่วมสังฆกรรมการเสนอแก้รายมาตราของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และอยากให้การประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ประชามติ ก่อนที่จะพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่าเห็นด้วยกับทุกญัตติที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย แต่เห็นว่าโจทย์ใหญ่ในตอนนี้คือต้องเร่งแก้ไขมาตรา 272 ก่อน เพราะเป็นต้นตอของวิกฤติในขณะนี้
ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า เป้าหมายหลักของการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายไพบูลย์ คือ การปิดช่องทางการเสนอแก้ทั้งฉบับ, การสร้างเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการคงระบบการเลือกตั้งที่ยังได้เปรียบ และการเปิดช่องให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลแทรกแซงข้าราชการ เพื่อผลประโยชน์ พร้อมกล่าวย้ำว่า การประชุมร่วมรัฐสภาควรที่จะพิจารณาเรื่องที่ค้างและเป็นเรื่องที่สำคัญก่อน ดังนั้นจึงไม่อยากเห็นประธานรัฐสภาตอบสนองความต้องการของรัฐบาล
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ มองว่า ควรพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งรัฐบาลขอมาเป็นวาระพิเศษนั้นไม่ถูกต้อง หากรัฐบาลขอเป็นกรณีพิเศษได้เท่ากับว่ารัฐบาลมีอำนาจเหนือกว่ารัฐสภา จึงอยากให้ประธานรัฐสภารักษาเกียรติบรรจุวาระตามขั้นตอน เพราะทั้งหมดเป็นอำนาจของประธานสภา พร้อมขอให้ประชาชนติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด และร่วมผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการแก้ไขวิกฤติประเทศ ไม่ใช่แก้เฉพาะพรรคการเมือง หรือรัฐบาล และหากประชาชนไม่สนใจ ปล่อยให้เป็นเรื่องของสภาอาจจะไม่สำเร็จ เพราะเสียงของพรรคฝ่ายค้านในสภาอาจจะแก้ไขไม่ได้ เนื่องจากการโหวตเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news