ภรรยาเสี่ยโกศล พร้อมทนาย บุกตร.ทวงถามคดีอุ้มหายอ้างคดีไม่คืบ และหมายจับ 1 ในผู้ต้องหาถูกยกเลิก พร้อมเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯให้สั่งการ
นางจินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาของนายโกศล เรืองดุก หรือเสี่ยโกศล นักธุรกิจค้าขายหอยและรับซื้ออาหารทะเลรายใหญ่ของ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความและนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีเสี่ยโกศล ถูกอุ้มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม และศาลได้ออกหมายจับ นายสุรัตน์ อายุ 43 ปี กับพวกรวม 8 คน ในความผิดฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกัน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และข้อหาอื่นๆอีกหลายข้อหา โดยมี พ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัส รองผู้บังคับการอำนวยการ สพฐ.ในฐานะเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว
ทนายไพศาล กล่าวว่าที่ต้องเดินทางมาวันนี้เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องรายงานความคืบหน้าคดีให้กับผู้เสียหายทราบภายใน 30 วัน แต่ผ่านมา 28 วันแล้วยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ประกอบกับต้องการทราบข้อเท็จจริง โดยอ้างว่ามีข้อมูลการยื่นคำร้องยกเลิกหมายจับออนไลน์ นายสุรัตน์ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับจริงหรือไม่ และมีเหตุผลอะไร รวมถึงต้องการความชัดเจนว่า นายสุรัตน์ ได้เข้ามอบตัวหรือถูกจับกุมตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่
อีกทั้งทราบว่าคดีนี้ ผบ.ตร.มีคำสั่งโอนสำนวนมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วจึงอยากทราบว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ และทางผู้เสียหายต้องติดตามความคืบหน้าจากใคร
และทราบว่าตำรวจกองปราบปรามฯ ซึ่งมีหมายจะลงพื้นที่เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาแต่กลับถูกเลิกภารกิจ จึงเกิดความสงสัยว่าในเมื่อมีเป้าหมายแล้วแต่ทำไม่จับกุมและที่ติดใจคือประชาชนในพื้นที่เห็นคนร้ายแต่ตำรวจกลับไม่เห็นและไม่ดำเนินการใดๆ ส่วนการร้องขอให้คุ้มครองพยานก็ยังไม่ดำเนินการ จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวจนต้องออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ นายไพศาล กล่าวว่าหลังจากยื่นหนังสือที่ ตร.แล้วจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งโดยตรงเพื่อทำให้คดีมีความชัดเจน ส่วนละเอียดสำคัญอื่นๆจะให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news