ศาลพิพากษาประหารชีวิต หนุ่มยิงอดีตภรรยาดับในคลินิกความงามย่านอนุสาวรีย์ – สารภาพเหลือจำคุกตลอดชีวิต
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายดนุสรณ์ หรือเจ จำเลยในคดีฆ่าอดีตภรรยา ซึ่งเป็นพนักงานคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายดนุสรณ์ เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าและพยายามผู้อื่น และพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนางสาวปิยานุจ ฉัตรไทย กระสุนถูกที่ศีรษะ และลำคอจนเสียชีวิต ต่อมาจำเลยได้หลบหนีไป จนกระทั่งถูกจับกุมได้ที่บ้านพักญาติ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พร้อมอาวุธปืนของกลาง เบื้องต้น จำเลยให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลย ที่ไม่ได้ทะเลาะกับผู้ตายก่อนก่อเหตุ แต่บุกเข้ามาภายในคลินิกเสริมความงาม และใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายทันที แสดงให้เห็นถึงเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นอกจากนี้กระสุนยังพลาดไปถูกมือข้างซ้ายของ นางสางวิลาสินี พนักงานในคลินิกอีกคน ดังนั้นจำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยพลาด และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ จริงตามฟ้อง ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักคือประหารชีวิต ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ส่วนข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษจำคุก รวม 4 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกรรมแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งจากประหารชีวิต คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าขาดไร้อุปการะบิดา-มารดาของผู้ตาย และค่าปลงศพ รวม 521,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี