Home
|
บันเทิงไทย

“ครูเต้ย อภิวัฒน์” โอดงานคอนเสิร์ตหาย แบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับแสน  

Featured Image

“ครูเต้ย อภิวัฒน์” โดนผลกระทบหนัก งานคอนเสิร์ตหาย แบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับแสน

 มาแรงแซงโค้งยอดวิวพุ่งแรงไม่มีแผ่วทะลุกว่าพันล้านวิว สำหรับครูเต้ย อภิวัฒน์ ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 พร้อมกับนำเพลงใหม่ล่าสุด เป็นจั่งได๋อีนาง มาสร้างสีสันให้ได้อมยิ้มกับเพลงเพราะๆกันแล้ว งานนี้ ครูเต้ย ยังได้มาเล่าย้อนถึงที่มาของตัวเองที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ พร้อมยังเผยถึงได้รับโดนผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด งานคอนเสิร์ตหายเกลี้ยง แถมยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับแสน

 จริงๆเป็นนักร้องก่อน หรือ ว่าเป็นคุณครูก่อน?

ผมเรียนไปด้วยแล้วก็เล่นดนตรีกลางคืนไปด้วยครับ แล้วก็ทำเพลงกับวงแต่ก็ยังไม่ได้มีงานจ้างในนามศิลปินนักร้องครับ แล้วพอผมได้มาเป็นครูก็ค่อยได้มีงานจ้างในนามที่เราเป้นศิลปินครับ แต่ที่ตอนเป็นนักร้อง คือ ผมเรียนอยู่งานที่จ้างผมคืองานที่เป็นร้านเหล้า เป็นผับเท่านั้นครับ แต่พอมาเป็นครูก็มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาแบบจริงจังครับ

แล้วก่อนหน้านั้นใช้ชื่ออะไร ก่อนที่จะมาเป็นครูเต้ย?

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ใช้ชื่อวงว่า ไนท์ติงเกล ครับเป็นชื่อวง ซึ่งตอนนั้นที่ทำกับวงจะเป็นเพลงสตริง (เพลงไทยสากล) ครับ  แต่มาใช้ชื่อ ครูเต้ย อภิวัฒน์ ก็คือหลังจากที่ได้มาเป็นครูแล้ว ผมก็เปลี่ยนมาทำเพลงแนวสตริงอีสานครับ ที่เป็นแนวเพลงของผมทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่ลูกทุ่งทีเดียวครับ แต่จะเป็นแนวอีสานครับ ดนตรีทุกอย่างจะเป็นแนวสตริง แต่เนื้อเพลงจะเป็นอีสานทั้งหมดครับ

 แต่ที่มาโด่งดังอีกอย่างคือ ครูเต้ย ทำคลิป นักเรียนที่ไม่ส่งการบ้าน ไม่ส่งงาน คลิปนี้เลยกลายเป็นไวรัลที่โด่งดังมากๆก็เลยกลายเป็นครูหล่อบอกต่อด้วยตามมาเลย

เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยครับ ตอนนั้นช่วงปิดเทอมแล้วผมก็ตรวจข้อสอบไปแล้วรู้สึกว่าเด็กบางคนคือไม่ได้จริง แล้วบางคนงานก็ไม่ค่อยชอบส่งตั้งใจก็ไม่ตั้งใจเราก็เลยพักในการตรวจข้อสอบแล้วก็หยิบกีตาร์มาลองแต่งเพลงแล้วพอแต่งเสร็จผมก็ปล่อยลงเฟสบุ๊คครับ แล้วเพจยูไลค์ที่เขากำลังดังเลยเขาก็เอาคลิปของเราไปลงก็เลยทำให้คนรู้จักเรา แล้วเขาก็ตามมาดูว่าผลงานเรามีอะไรบ้างก็เห็นว่าเราเคยร้องเพลงมาก่อน คอย cover มาบ้าง พอเราปล่อยเพลงออกมาช่วงนั้นมันก็เลยมีกระแส ซึ่งพอปล่อยเพลงออกมาคนก็เข้าไปดูต่อหนึ่งวันสองถึงสามล้านวิวเลยครับ ซึ่งทุกเพลงผมก็จะแต่งเอง ร้องเอง และเรียบเรียงเองหมดเลยครับ

  สำหรับตัวครูเต้ย รู้สึกยังไงบ้างที่เพลงของเราที่ออกมารวมกันแล้วยอดวิวคือ ทะลุไปพันกว่าล้านวิว?

ผมรู้สึกดีใจมากเลยครับที่มีคนชอบเพลงแนวของเรานะครับ คือ อย่างช่วงแรกๆที่ผมทำออกมาจะโดนว่าให้ครับ อย่างคนที่ฟังเพลงลูกทุ่งจริงๆเขาก็จะมาว่าให้ว่าร้องเพลงแบบนี้เหรอมันทำให้เสียวงการลูกทุ่งเพราะเข้าใจว่าเราทำเพลงลุกทุ่งครับ แต่จริงๆแล้วเราทำเพลงสตริงครับ แต่เนื้อเพลงเราเป็นอีสานครับ ซึ่งเพลงทุกเพลงที่ผมทำคือ เป็นลิขสิทธ์ของผมเองทุกอย่างเลยครับ ส่วนเพลงที่ยอดวิวสูงสุดคือเพลง ฉันยังรักเธอ ยอดวิวน่าจะประมาณสามร้อยยี่สิบกว่าล้านวิวครับ เพลงนี้จะมีส่วนผสมที่เป็นอีสานคือมี แคน มีพิณ เป็นเครื่องดนตรีที่เราผสมผสานเข้าไปด้วยครับ”

“ครูเต้ย ก็ต้องใช้ความเป็นครูเต็มเวลาในการสอน แล้วก็มีงานคอนเสิร์ตที่ต้องบอกเลยว่าเยอะมากๆวันหนึ่งคือ 2-3 งานแบบนี้จัดสรรเวลายังไงให้ลงตัว?

อย่างงานคอนเสิร์ตคือ ผมก็จะรับช่วงเย็นครับ และในช่วงจันทร์ถึงพฤหัสบดี คือผมก็จะรับในโซนที่ไม่ไกลจากที่เราสอนก็จะรับในโซนอีสานเพราะอย่างเราเล่นเสร็จตีหนึ่งตีสอง ก็กลับมาอาบน้ำนอนแล้วก็ตื่นไปสอนที่โรงเรียน แต่ถ้าเป็นศุกร์ เสาร์ ผมก็สามารถที่จะไปภาคเหนือ ภาคใต้ หรือมากรุงเทพฯได้ครับ แต่ถ้าวันปกติก็จะรับแค่ใกล้ๆครับ อย่างช่วงที่ก่อนจะเกิดโควิด ผมจะไม่รับงานแค่วันจันทร์ครับเพราะว่าเป็นวันพักครับ วันหนึ่งที่ผมเคยรับสูงสุดคือ น่าจะประมาณ 5 งานครับ แต่พอรับเยอะไปงานก็จะไม่มีคุณภาพด้วยครับเพราะว่ามันเยอะไปแล้วทำให้เราพักผ่อนน้อยมาก แล้วพอรับงานเยอะเราร้องเยอะผลกระทบมันเกิดที่เสียงครับ เพราะเสียงยังไม่ได้พักเลยแล้วมันก็ใช้แบบต่อเนื่องๆด้วยแบบเสียงเราแหบเราก็ต้องไปร้องนะครับ เพราะว่าเรารับงานไปแล้ว

 แต่ช่วงนี้คือ ได้พักเสียงยาวเลยเพราะว่าในช่วงโควิดพูดได้ว่า ครูเต้ย คือหนึ่งคนที่สูญเสียรายได้ไปเป็นล้าน แต่หลายคนที่มองว่าเขาโกยมาเยอะแล้วทุกคนต้องทำความเข้าใจแบบนี้เพราะว่าเวลาที่เขาไปโชว์ คือ เขาไปเป็นวงมีทุกอย่างไปเป็นเซ็ต และต้องบอกว่าทุกวันนี้ ครูเต้ย ก็ต้องดูแลคนที่ทำงานด้วยกันที่ก่อนหน้านี้ทำงานมาด้วยกันตอนนี้คือต้องดูแลทุกคนเดือนๆหนึ่งค่าใช้จ่ายคือ หกหลักเลยไหม?

แสนกว่าครับ ทุกวันนี้ก็ยังคงต้องดูแลครับ แต่คือ โชคดีของผมอย่างหนึ่งครับ ช่วงโควิดยังพอมีงานพรีเซ็นเตอร์ งานรีวิว แล้วก็ทำเพลงลงในยูทูป เรายังมีรายได้ตรงนี้มาเลี้ยงทีมงาน แต่มันก็ไม่ได้เท่ากับตอนที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตเท่านั้นเองครับ”

 อีกหนึ่งเรื่องเป็นความตั้งใจของครูเต้ยที่น่ารักมากๆเลยก็คือ ตอนนี้ตั้งใจที่จะทำบ้านไว้ให้คุณปู่คุณย่า?

ใช่ครับ คือ แรกๆเลยผมช่วยคุณปู่คุณย่ามาอยู่ด้วย ท่านก็บอกว่ามาอยู่ด้วยตลอดคงไม่ได้ถ้ามาๆไปๆพอได้ครับ เพราะว่าท่านคิดถึงไร่นาที่ อุบลราชธานี จริงๆผมเกิดที่นั่นแล้วมาบรรจุที่ ขอนแก่น เลยมาสร้างบ้านไว้ที่ ขอนแก่น ครับเพราะว่าเราทำงานที่นี่ ซึ่งบ้านที่จะทำให้คุณปู่ คุณย่า ก็ที่ ขอนแก่น ครับเพราะอยากให้มาอยู่ใกล้ๆกัน”

ด้วยอายุขนาดนี้ที่จะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาอีกเหตุผลคือ เอาไว้อยู่ช่วงบั้นปลายชีวิต?

คือ อาชีพนักร้องมันไม่ได้มั่นคงและถาวรครับ เพราะที่บ้านหลังนี้ที่ผมสร้างขึ้นมาก็จะมีห้องอัดอยู่ด้วยครับ คือ ถ้าผมไม่มีงานร้องเพลงแล้วผมก็จะอยู่เบื้องหลังรับทำเพลง เรียบเรียง ทำดนตรี ปั้นศิลปินใหม่ๆขึ้นมาครับ บ้านหลังนี้จะมีครบทุกอย่างครับ”

 

เคยกลัวไหมถ้าวันหนึ่งเราจะไม่ดัง ไม่มีกระแส?

ที่จริงก็มีในความคิดนะครับ แต่เพราะเราไม่เคยเอาเพลงของเรา หรือว่าคิดเอาเพลงของเราไปเปรียบเทียบกับใคร ต้องแข่งกับใครเพราะว่าแนวเพลงแล้วแต่คนชอบ และเราก็ยังจะทำแนวเพลงของเราออกมาให้ทุกคนได้ฟังในแบบของเราครับ ผมก็ฝากผลงานเพลงด้วยนะครับจะปล่อยผ่านทาง คือถิ่น สตูดิโอ และฝากติดตามเฟสบุ๊ค ครูเต้ย อภิวัฒน์ และฝากหนังเรื่อง ส้มปลาน้อย ของพี่หม่ำ ด้วยนะครับ เรื่องนี้เล่นเป็นพระรองครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube