กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงมาตรการล่าสุด มีใจความสำคัญคือ อนุมัติให้ใช้ชุดตรวจอย่างง่าย ,Home Isolation, เน้นมาตรการ DMHTT , เร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ได้มีแถลงจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เรื่องมาตรการควบคุมโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์ที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น
ทาง ไอ.เอ็น.เอ็น. ขอสรุปข้อมูลจากแถลงการณ์ โดยนำข้อมูลมาจาก หมอแล็บแพนด้า พร้อมเสริมข้อมูลง่ายๆให้ทุกคนได้ทราบ
เพจหมอแล็บด้า ได้โพสต์
ด่วน! ประกาศจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
- อนุมัติให้ใช้ชุดตรวจอย่างง่าย rapid antigen แบบ swab ในสถานพยาบาลที่มีเตียงรองรับ สามารถทำได้เลย ถ้าผลเป็นลบให้กลับบ้านได้ ถ้าผลเป็นบวก ควรตรวจ RT-PCR ซ้ำอีก เพราะเป็นวิธีมาตรฐาน ส่วนเรื่องอนุญาตให้ตรวจ rapid antigen ที่บ้านจะเป็นระยะถัดไปเร็วๆนี้
เสริมข้อมูล
Rapid antigen คือการตรวจโควิดอย่างง่าย รู้ผลอย่างรวดเร็ว รู้ผลไม่เกิน 1 ชั่วโมง ปัจจุบันหน่วยงานรัฐยังไม่แนะนำให้ซื้อมาตรวจเองเพราะอ่านผลคลาดเคลื่อนได้ น่าจะเริ่มดำเนินการได้เลย
- Home Isolation และ Community isolation จะมีระบบสาธารณสุขเข้าไปดูแลร่วมกับสปสช. จะทำการดูแลเป็นครอบครัว และมีเครื่องมือต่างๆ เช่น oximeter กำลังเร่งทำอยู่
เสริมข้อมูล
Home Isolation คือการรักษาตัวอยู่ที่บ้านสำหรับผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการ (สีเขียว)
- เน้นมาตรการบุคคลอย่างเข้มงวด DMHTT หรือ บับเบิ้ลแอนด์ซีลตัวเอง สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือ และให้เน้น work from home มากขึ้น
เสริมข้อมูล
DMHTT เป็นแนวทางปฏิบัติ เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจอุณหภูมิ ตรวจโควิด ใช้ไทยชนะ
- เร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยง เช่น กรุงเทพฯและปริมณฑล และเร่งฉีดให้กลุ่มเสี่ยงเพื่อลดอัตราการตาย ในสัปดาห์หน้าจะระดมฉีดที่กทม.
เสริมข้อมูล
กลุ่มเสี่ยงคือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็น 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง จะระดมฉีดให้ 1-2 สัปดาห์นี้
- อันนี้สำคัญมาก ทางกระทรวงสาธารณสุข เสนอ ศบค. ให้มีการจำกัดการเดินทาง ไม่ออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น ให้ออกมาซื้ออาหารได้ ฉีดวัคซีนได้ และปิดสถานที่ที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ตลาดเปิดได้ ตอนนี้กำลังรอศบค.พิจารณา เพื่อให้ระบบสาธารณสุขสามารถดูแลพี่น้องได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปครับ
หากมีอะไรอัพเดทเพิ่มเติมทาง ไอ.เอ็น.เอ็น. จะรีบแจ้งให้ทุกคนทราบ ติดตามไว้ได้เลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล