เศร้า! “เป็ด เชิญยิ้ม” สูญเสียคุณพ่อวัย 94 ปี เผยความในใจอยากให้มีปาฎิหาริย์
เศร้า! “เป็ด เชิญยิ้ม” สูญเสียคุณพ่อวัย 94 ปี ด้วยโควิด
ถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งสูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักวัย 89 ปีที่จากไปด้วยโรคโควิด-19 สำหรับตลกชื่อดัง เป็ด เชิญยิ้ม ล่าสุดคุณพ่อ ที่ นอนรักษาตัวด้วยโรคโควิด-19 ก็ได้จากไปอย่างสงบในวัย 94 ปีด้วยเช่นกัน
โดยทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า Crazy_Kob ได้แจ้งข่าวเศร้าดังกล่าวระบุว่า “เมื่อเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมา คุณพ่อของอา #เป็ดเชิญยิ้ม ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 93 ปีด้วยโรคโควิด ขณะที่อาเป็ดกำลังจะเดินทางไปขึ้นเครื่องเพื่อแก้บน ที่พัทลุง จู่ๆ ทางรพ.ก็โทรมาแจ้งข่าวร้ายดังกล่าว #ขอแสดงความเสียใจ #RIP #โควิดวันนี้ #โควิด19เราต้องรอด #ล็อกดาวน์”
ขณะที่เป็ด เชิญยิ้ม ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นภาพขณะกราบเท้าคุณพ่อ คุณแม่ พร้อมกับบรรยายความรู้สึกของตัวเองไว้ว่า ตั้งแต่เด็กจนโต พ่อเป็นต้นแบบของพ่อที่ดี ทำงานหนักเพื่อลูกๆและครอบครัว โดยไม่เคยบ่นว่าเหน็ดเหนื่อย จนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ทราบว่าคุณพ่อและคุณแม่ติดเชื้อโควิด-19 ลูกทุกคนก็ได้เฟซไทม์ส่งกำลังใจไปให้และคอยพูดคุย จนวันที่ 29 มิถุนายนคุณแม่ได้จากไป เพราะสู้กับโควิดไม่ไหว โดยที่ลูกทุกคนไม่มีใครที่จะส่งข่าวให้พ่อรู้ ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณวันที่ 5 กรกฎาคม หมอต้องพาคุณพ่อเข้ารักษาตัวที่ห้อง ไอซียู พ่อเริ่มมีอาการเครียดหนักขึ้น ไม่ยอมนอนคว่ำเพื่อให้ออกซิเจนสูงขึ้น จนลูกทุกคนพากันเครียด และมีบางคำพูดของคุณพ่อที่ทำให้ตนน้ำตาไหล หลังจากนั้นก็ไม่รับอะไรทั้งสิ้นจนค่าออกซิเจนต่ำลง ซึ่งเพิ่งผ่านวันคล้ายวันเกิดครบ 94 ปี เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา และคุณแม่อายุครบ 89 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และปีนี้เป็นปีที่ครบรอบแต่งงาน 70 ปี โดยที่ไม่เคยจากกัน ตนอยากให้พ่อสู้และอยากให้มีปาฎิหาริย์เกิดขึ้น
“ลูกทุกคนเติบโตมาด้วยรอยเท้าของพ่อ ผมจำได้ว่าตอนผมเด็กๆขาพ่อทั้งสองข้างปั่นสามล้อให้ผมกับพี่ชายนั่งเล่นไปในตลาดมันเป็นความสุขของผมกับพี่ชายหลังจากนั้นไม่นานพ่อไปเปลี่ยนเป็นรถตุ๊กๆ และพัฒนามาเป็นดัสสันและเปลี่ยนมาเป็นรถเบ็นซ์เพื่อวิ่งรับผู้โดยสารจากตรังไปนครศรีธรรมราชพ่อทำงานหนักมากเพื่อเลี้ยงลูกทั้งหมด6 คน สามสิบกว่าปีที่พ่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ผมไม่เคยว่าพ่อบ่นว่าเหนื่อย พ่อกับมาได้เห็นแต่รอยยิ้มของพ่อและหัวเราะให้แม่กับลูกๆทุกคนมีความสุขครอบครัวเราฐานะค่อนข้างยากจนแม่ก็คอยจัดอาหารรอพ่อกลับแล้วกินข้าวกันอย่างมีความสุข พ่อเป็นพ่อที่ดีที่สุดในสายตาของลูกทุกคนเมื่อวันที่18 มิถุนายนทราบข่าวพ่อกับแม่ติดเชื้อโควิดอยู่โรงพยาบาลก็คนเฟสไทม์กันเห็นรอยยิ้มของพ่อกับแม่ได้คุยกับลูกกำลังใจจากลูกทุกคน ส่งถึงพ่อกับแม่เห็นรอยยิ้มของพ่อกับแม่ผมได้พูดกับพ่อพูดกับแม่ว่าสู้นะกักตัวแค่14 วันแม่บอกว่าสู้พ่อก็ยิ้มและหัวเราะอยู่ข้างๆ จนมาถึงวันที่29 มิถุนายนแม่ก็จากไปเพราะสู้กับมันไม่ไหวโดยที่ลูกทุกคนไม่มีใครที่จะส่งข่าวให้พ่อรู้ ทุกครั้งพ่อจะถามว่าแม่ไปไหนลูกๆก็บอกว่าแม่หายแล้วเหลือแต่พ่อนะ พ่อต้องอดทนนะ พ่อต้องสู้นะ ก่อนหน้านี้ประมาณวันที่5 กค หมอต้องพ่อลงไปอยู่ในห้องไอซียูพ่อเริ่มเครียดหนักขึ้นเรื่อยๆหมอต้องการให้นอนคว่ำเพื่อให้อ๊อกซิเจนสูงขึ้นเค้าก็ไม่ยอมทำจนลูกทุกคนเครียดลูกหลานทุกคนโทรให้กำลังใจก็เริ่มไม่ฟังและได้พ่อกับคนที่ดูแลพ่อที่เอามารักษาโควิดด้วย คำพูดของพ่อทำให้น้ำตาไหลพ่อพูดว่าจำปาโทรให้ย่ามารับปู่ด้วยนะ หลังจากนั้นไม่รับอะไรทั้งสิ้นอ๊อกซิเจนต่ำลงมาเรื่อย เพิ่งผ่านวันเกิดเค้ามาเมื่อวันที่26 มิถุนายนครบ94 ปี แม่ครบ89 ปีเมื่อเดือนพค.และปีนี้เป็นปีที่ครบรอบแต่งงานมา70ปีโดยที่ไม่เคยจากกัน ผมอยากให้พ่อสู้ ผมอยากให้มีปาฏิหารย์ พ่อสู้นะพ่อลูกหลานทุกคนรอพ่อ ลูกหลานทุกคนรักพ่อ สู้นะพ่อนะ”