กรมควบคุมโรค ขอผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ เข้มมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมประชาชนให้เน้น Work from Home
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงนี้ ยังพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชนให้อยู่บ้าน ลดการติดเชื้อโควิด 19 ส่วนสถานที่ทำงานขอให้เน้นการทำงานที่บ้าน (Work from Home) เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและนำเชื้อจากนอกบ้านมาแพร่สู่คนในครอบครัว หากจำเป็นต้องเดินทางออกไปทำงานหรือออกไปทำธุระส่วนตัวนอกบ้าน ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะรักษามาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
คำแนะนำในการป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ มีดังนี้
1.ด้านอาคารสถานที่และยานพาหนะ ต้องดูแลความสะอาดสถานที่ให้บริการและอุปกรณ์ที่มีผู้โดยสารใช้ร่วมกัน เช่น ห้องสุขา สถานที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ปุ่มกดตู้จำหน่ายตั๋ว อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก 1-2 ชั่วโมง และเพิ่มความถี่ให้มากขึ้นในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก
2.คนขับและพนักงานประจำรถโดยสาร ต้องรักษามาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดและสังเกตอาการป่วยของผู้ใช้บริการ
3.ด้านการบริการ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายตั๋วโดยสาร เช่น การจำหน่ายตั๋วโดยสารทางออนไลน์ ส่งเสริมการใช้บัตรโดยสารส่วนตัว เช่น บัตรเติมเงิน เพื่อลดความแออัดบริเวณที่จำหน่ายตั๋วและลดการสัมผัสตู้ซื้อตั๋วโดยสาร และจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ที่จุดบริการ
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานขอให้เน้นการทำงานที่บ้าน (Work from Home) หากจำเป็นต้องเดินทางออกไปทำงานหรือออกไปทำธุระส่วนตัวนอกบ้าน ขอให้รักษามาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน เว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1-2 เมตร ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือทำความสะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์ ลดการเดินทางไปยังสถานที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก หากมีอาการป่วย ไข้ ไอ จาม เป็นหวัด ให้หยุดพักสังเกตอาการที่บ้าน และงดการทานอาหารร่วมกัน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อและนำเชื้อจากนอกบ้านมาแพร่สู่คนในครอบครัว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news