Home
|
ข่าว

“เผ่าภูมิ”เปิดแผนแก้โควิดหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล

Featured Image
“เผ่าภูมิ”เปิดแผนแก้โควิด หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ชี้ ไทยจะมีวัคซีนทุกประเภท พร้อมเพิ่มศักยภาพระบบสาธารณสุข

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 จะทำ 10 อย่าง คือ ประเทศไทยจะมีวัคซีนทุกประเภท จะไม่แทงม้าตัวเดียว และเมื่อเราเลือกผิด จะกล้ายอมรับผิดแล้วปรับแผนวัคซีนทันที โดยเข็มแรกของไทยจะเริ่มฉีดตั้งแต่ปลายปี 2563 ถึงวันนี้จะฉีดได้ 70% และทำลายข้อจำกัดการนำเข้าวัคซีนทางเลือกของภาคเอกชนทันที เราต้องไม่แพ้เพราะข้อจำกัดที่เราสร้างขึ้นเอง

ในช่วงที่ไม่มีการระบาด (ตั้งแต่ปลายปี 2563) จะเตรียมความพร้อมเพิ่มศักยภาพระบบสาธารณสุขทันที ในเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทก้อนแรก ซึ่งจะแบ่งให้ด้านสาธารณสุข จำนวน 1-2 แสนล้านบาท เบิกจ่ายทันที โดยระดมลงทุนกับโรงพยาบาลสนาม, สถานพักพิงผู้ติดเชื้อ, ICU สนาม, เครื่องช่วยหายใจ, ยาฟาวิพิราเวีย

ทำฐานข้อมูลศักยภาพโรงพยาบาลทั้งประเทศ และระบบโลจิสติกส์เตรียมขนย้ายผู้ป่วยทันที ให้พร้อมตั้งแต่ต้นปี 2564

จะไม่มีข้อจำกัดแปลกๆ ที่ว่าตรวจผลเป็นบวก ต้องแอทมิททันที ตรวจที่ไหนแอทมิทที่นั่น เพราะในโรงพยาบาลศักยภาพการให้บริการเตียง น้อยกว่า ศักยภาพการตรวจเสมอ

จะใช้ Rapid Antigen Test, DnaNudge ควบคู่กับ RT-PCR ตั้งแต่เริ่มแรก รวดเร็วและเข้าถึงง่าย แยกผู้ป่วยออกจากสังคมได้เร็วกว่า ซึ่งคือกุญแจสำคัญ

ระดมตรวจโรคจำนวนมหาศาล เมื่อตรวจเสร็จ เราจะมีระบบโลจิสติกส์ระดับประเทศมารองรับ โดยใช้ฐานข้อมูล ที่เตรียมไว้ โดยนำคนป่วยปานกลาง-หนัก กระจายสู่สถานพักพิง, ICU และ รพ. ที่หนาแน่นน้อยในจังหวัดที่มีศักยภาพเพียงพอทันที โดยไม่มีการนอนรอเตียง ไม่มีการตายคาเตียง

การสื่อสารในภาวะวิกฤตกับประชาชนของเราจะตรงไปตรงมา ให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ข้อเท็จจริงเดียวกัน และให้ประชาชนรับรู้ถึงแผนงานที่ชัดเจนของเราทุกขั้นตอน

จะใช้มาตรการคงการจ้างงานขนาดใหญ่ตั้งแต่เริ่มแรก สนับสนุนค่าจ้าง 50% จ่ายตรงไปยังนายจ้างงานเพื่อนำไปจ่ายค่าจ้างลูกจ้าง โดยต้องจ้างงานอยู่ที่ 90% ซึ่งคนจะไม่ตกงาน บริษัทจะไม่ล้ม Soft Loan จะมีขนาดใหญ่ และใช้ได้จริง มีเงื่อนไขผ่อนปรนและเข้าถึงง่ายมาก

การเยียวยาจะเป็นแบบตรงจุด ตรงเป้า โดยใช้ระบบฐานข้อมูลที่ระบุความเดือดร้อนได้ตรงเป้า และการเยียวยาจะต้องมุ่งสู่การลงทุนภาคเอกชน และการสร้างงานใหม่ ไม่ใช่แค่การกระตุ้นการบริโภคที่หมดไปวันๆแบบที่เป็นอยู่ และหากทำตามที่ระบุเงินกู้ตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านก้อนแรกนั้นจะเหลือเฟือ ไม่ต้องกู้เพิ่มอีก 5 แสนล้าน ไม่ต้องกู้เพื่อชดเชยขาดดุลอีก 7 แสนล้านบาท หนี้สาธารณะต่อ GDP จะอยู่ที่ราว 50% เท่านั้น ไม่ทะลุเพดานเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube