“ยุทธพงศ์” เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาปชช.คนละ 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน พร้อมตั้งข้อสังเกตการใช้เงินกู้แก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์ 14 วัน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น คนที่ต้องรับผิดชอบคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เรื่องการประกาศล็อกดาวน์มีเรื่องใหม่ คือ นายกประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือน เดือนละ 125,590 บาท 3 เดือนรวม 347,220 บาท ซึ่งผลกระทบการปิดแคมป์คนงาน ปิดห้าง ร้านอาหาร คนเข้าแถวเพื่อรับบริการสาธารณสุขเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย มองว่ารัฐบาลใช้ยาแรงปิดห้าง ปิดร้านอาหาร ปิดแคมป์ ปัญหาที่ตามมาคือคนไม่มีจะกิน ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัด บางส่วนติดเชื้อไม่มีงานทำ รัฐบาลจะเยียวยาช่วยเหลือประชาชนอย่างไรบ้าง ดังนั้นขอเรียกร้อง ในสถานการณ์ลำบากและประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลควรที่จะช่วยเหลือเยียวยาประชาชนคนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 บาทเดือน เหมือนปี 2563
โดยนายยุทธพงศ์ ระบุว่า ส่วนคนติดโควิด-19 เดินทางกลับต่างจังหวัด เนื่องจากกรุงเทพมหานครไม่มีเตียงที่จะรักษา ตนเป็น ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม ทำให้โรงพยาบาลล้น และต้องทำโรงพยาบาลสนาม เช่น โรงพยาบาลสนามขนาด 17 เตียง จะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องวัดค่าออกซิเจนที่ปลายนิ้ว, เครื่องวัดความดันโลหิตดิจิทัล, กล้องวงจรปิด, เตียง, ที่นอน, หมอน, รถทำหัตถการ, ถังขยะติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อ เป็นต้น เงินทั้งสิ้น 250,650 บาท
ปัญหาตามมา คือ รัฐบาลไม่มีเงินช่วยเหลือ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเงินกู้ด้านสาธารณสุขลอตแรก 4.5 หมื่นล้านบาท จากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท และครั้งใหม่ 3 หมื่นล้านบาท แต่กลับไม่มีงบประมาณให้ ทำให้ประชาชนต้องช่วยกันบริจาค ซึ่งประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้วยังต้องบริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ติดโควิด -19 หากเทียบกับนายกฯ บอกไม่รับเงินเดือน 3 เดือน ประมาณ 350,000 บาท หากเทียบคนที่เป็นส.ส. เขาเสียสละมากกว่านายกฯ อีก คำถามคือรัฐบาลนำเงินกู้ไปทำอะไรหมดในงบประมาณเงินกู้ 2 ครั้ง และการบริหารล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน วันนี้เหมือนปล่อยให้คนต่างจังหวัดสู้กันเองตามยถากรรม
ซึ่งตั้งแต่ปี 2563 มีเงินกู้ 4.5 ล้านบาท เหตุใดรัฐบาลไม่นำเงินส่วนนี้ไปซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ และจัดเตรียมระบบสาธารณสุขให้เพียงพอ ซึ่งมีเวลาอยู่เป็นปี และวัคซีนที่ดีมีคุณภาพอยู่ไหน ทำไมจึงไม่ซื้อให้ประชาชนฉีด แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการวัคซีน เมื่อมีการเรียกร้องให้เปิดสัญญาวัคซีนรัฐบาลก็ไม่นำมาเปิดเผย อ้างแต่เป็นความลับ
ซึ่งขณะนี้มีส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชิโนแวค 2 เข็ม คาดว่าอาจจะติดเชื้อโควิด-19 เรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ และแสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีปัญหาเรื่องคุณภาพ นอกจากนี้เรายังเห็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็ม ก็เสียชีวิตเช่นเดียวกัน
ดังนั้นที่อ้างว่าการฉีดป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีปัญหา ต่อไปประชาชนจะทำอย่างไร ในเมื่อรัฐบาลจะซื้อวัคซีนซิโนแวคอีก 10.9 ล้านโดส วงเงินกว่า 6.1 พันล้านบาท ทั้งที่วัคซีนชนิดนี้มีปัญหาเรื่องคุณภาพ
“ยุทธพงศ์” จี้นายกฯถอนเรื่องการใช้งบฯซื้อเรือดำน้ำปี 2565 แล้วนำงบฯมาจัดซื้อวัคซีนให้กับประชาชน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าที่จะซื้อเรือดำน้ำต่อ มีทั้งหมด3 ลำ ซึ่งซื้อไปแล้ว 1 ลำ เมื่อปีงบประมาณ 2560 มีผ่อนจ่ายถึงปี 2566 ส่วนลำที่ 2,3 จะจัดซื้อ ปีงบประมาณ 2563 – 2569 งบประมาณ 22,500 ล้านบาท ซึ่งปี 63-64 มีการเลื่อน และปีนี้ก็นำเข้ามาอีก
หากพล.อ.ประยุทธ์ เห็นแก่ประชาชน การเสียสละเงินเดือน 3 เดือนไม่พอช่วยประชาชน ดังนั้นตนเรียกร้อง หากเป็นสุภาพบุรุษ คนกำลังอดอยาก ล้มตาย เดือดร้อนทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยถอนเรื่องการใช้งบประมาณการซื้อเรือดำน้ำในปี 2565 เลยได้หรือไม่ หากคุณเป็นนายกรัฐมนตรี หัวใจคุณมีประชาชน ทั้งนี้ถ้าประเทศไทยไม่ซื้อเรือดำน้ำ ที่วงเงิน 3.4 หมื่นล้าน หากนำไปซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกาโดสละ 150 บาท จะซื้อได้ 232 ล้านโดส และจะสามารถฉีดวัคซีนให้คนไทยได้ 3.3 โดส
ทั้งนี้นายยุทธพงศ์ ระบุว่า ตนในฐานะคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ ในสัปดาห์หน้า งบของกระทรวงสาธารณะสุขเข้าที่ประชุม ตนจะขอดูสัญญาในการจัดซื้อวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องที่สามารถเปิดเผยได้ และขอทราบผลการเบิกจ่ายงบสาธารณสุขทั้งสองลอต อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศอย่างนี้คนถึงออกมาไล่
นอกจากนี้ตนทราบข่าวมาว่า “มีใบสั่ง” จากทางรัฐบาล ให้กรรมาธิการงบประมาณซีกรัฐบาล ในปีนี้ต้องดันงบประมาณเรือดำน้ำผ่านให้ได้ โดยส่งปลัดบัญชีทหารบกมาเป็นกรรมาธิการงบประมาณด้วย เพื่อจะผ่านเรือดำน้ำ โดยไม่สนว่าประชาชนจะเดือดร้อนอดอยาก ทั้งนี้หากพล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าเรื่องนี้ไม่จริง ก็ขอให้ถอนเรื่องออกไปโดยไม่ต้องให้กรรมาธิการในซีกฝ่ายค้านออกมาคัดค้าน และนำเงินจำนวนนี้ไปช่วยเหลือชีวิตของประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news