ตามครบแล้ว18ต่างด้าวถูกทิ้งบางพลี-ฟันไม่เลี้ยงตร.เอี่ยว

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงศ์ โฆษก ตร.เปิดเผยกรณี ตำรวจสภ.บางแก้ว สมุทรปราการ รับแจ้งมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมากว่า 10 คน ถูกนำมาทิ้งภายในซอยกรีนเลค หมู่ 2 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า จากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวถูกทิ้ง รวมทั้งสิ้น 18 คน เดิมพบ 14 คน และพบเพิ่มเติมระหว่างทางอีก 4 คน โดยตรวจพบเอกสารที่ยืนยันตัวได้ 6 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างสอบสวนหาเอกสารยืนยันตัวตน ซึ่งวันนี้ผู้รับผิดชอบโรงงานมาปรากฎตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ ยังไม่ปรากฎว่าเป็นเหตุอะไร เบื้องต้นโรงงานไม่ได้นำมาทิ้ง แต่เป็นการอำนวยความสะดวก หลังในพื้นที่มีเหตุแล้วงานคงไม่ได้ทำ ซึ่งอาจจะมาพบญาติ โดยทั้งหมดถูกเก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจสอบ และกักตัวอยู่ที่สนามกีฬาบางพลี ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิดและเวรยามดูแลผู้ที่โดนกักกันอย่างดี โฆษก ตร. ฝากไปถึงผู้ประกอบการอย่าพึ่งตื่นตระหนก หากจะเป็นเหตุนำมาทิ้ง ขอความกรุณาว่าอย่าทำอย่างนั้น เพราะอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโดยที่เราควบคุมอะไรไม่ได้ ระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเลยที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่จะให้ความสำคัญในการควบคุมโรคก่อน โรงงานใดที่มีแรงงานที่ต้องสงสัยหรืออยากเคลียร์ประเด็นเรื่องระบาดของโรคให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เฝ้าระวังป้องกันเก็บตัวอย่างโรคมาวิเคราะห์ เช่น จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด หรือตำรวจ อย่าพึ่งพูดถึงข้อกฎหมายเรื่องอื่นต้องช่วยกันดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคเป็นลำดับแรกก่อน     ผบ.ตร. ไม่เลี้ยงไว้เด็ดขาดตำรวจเอี่ยวขบวนการขนต่างด้าวผิดกฎหมาย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงศ์ โฆษก ตร. เปิดเผยมาตรการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายว่าจะเข้มมากขึ้น หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้นโยบายมาแล้ว ว่าต้องจัดการให้สิ้นซาก ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และประชุมมอบนโยบายตำรวจทั่วประเทศเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากพบว่ามีข้าราชการตำรวจกระทำความผิดจะไม่เลี้ยงไว้เด็ดขาด อีกทั้งให้นโยบายไว้ว่าส่วนไหนจังหวัดใดที่มีความจำเป็นเหตุเฉพาะเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคสามารถตั้งจุดตรวจจุดสกัดได้ โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า จากการที่ ผบ.ตรได้ลงพื้นที่เมื่อวานนี้ ได้มีข้อห่วงใยและสั่งกำชับในเรื่องการดูแลกำลังพล จะต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือในการดูแลป้องกันตัวเอง พร้อมให้ศึกษาเรื่องทำประกันสุขภาพให้ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเป็นสวัสดิการในการทำงาน ส่วนการดูแลประชาชนในพื้นที่ ได้ให้ ติดอุปกรณ์ป้องกันควบคุมดูแลไม่ให้เกิดการหลบหนี และให้ใช้อุปกรณ์ตรวจยืนยันตัวบุคคล เพื่อการตรวจสอบในภายหลังได้ โดยสั่งให้เก็บข้อมูลเป็นระบบระเบียบ