“อนุทิน” เผย สัปดาห์หน้าคุยทุกบริษัท จัดหาวัคซีน mRNA โมเดอร์นาตอบรับแล้ว พร้อมสั่งซื้อไฟเซอร์ อีก 50 ล้านโดส ชง”ศบค.”เคาะจำกัดส่งออกแอสตราเซนเนกา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าได้สั่งการ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เร่งจัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายนอกราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว เสนอให้ศบค. พิจารณาตัดสินใจ เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมของประเทศไทย
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย.เชิญผู้แทนของบริษัทวัคซีน ที่ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนในประเทศไทย ทุกราย เข้าพบในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือถึงแนวทางที่ประเทศไทย จะได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวัคซีน mRNA ที่ประชาชนต้องการ ซึ่งขณะนี้ผู้แทนของโมเดอร์นา ได้ตอบรับ ที่จะร่วมหารือกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แล้ว รวมทั้ง ได้มีการยื่นข้อเสนอไปที่บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย เพื่อสั่งซื้อวัคซีน เพิ่มขึ้นอีก 50 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางความร่วมมือกัน เร็วๆนี้
“อนุทิน”ชง “ศบค.” เคาะ จำกัดส่งออกแอสตราเซนเนกา ไป ต่างปท. หวังได้ 10 ล้านโดส ฉีดให้คนไทยก่อน
แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ได้ให้ความเห็นชอบหลักการที่จะมีการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายนอกราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว ตามที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เสนอ และมอบให้สถาบันวัคซีนฯ กับกรมควบคุมโรค จัดทำร่างประกาศ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการฯพิจารณา โดยให้คำนึงถึงผลกระทบ ผลประโยชน์ของประเทศไทย และประชาชนคนไทยเป็นสำคัญ ทั้งปัจจุบันและอนาคต ควบคู่กันไป
ในที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีน และให้ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กับ อธิบดีกรมควบคุมโรค ไปเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน ให้ได้จำนวนวัคซีนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ระบาดของโรคในประเทศก่อน ซึ่งประเด็นนี้ นายอนุทิน เคยแจ้งเป็นหนังสืออย่างเป็นทางการไปถึงแอสตราเซนเนกา แล้วว่า ประเทศไทย ต้องการวัคซีน เดือนละ 10ล้านโดส
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้แจ้งให้ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนฯ ว่าเมื่อได้ผลการเจรจาอย่างไร ให้นำมารายงานในที่ประชุมกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาประกอบการจัดทำประกาศฯ ซึ่งคณะกรรมการ พร้อมจะประชุมทันทีที่ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์กับประชาชนคนไทย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับประเทศในอาเซียน ที่รอการจัดสรรวัคซีน ที่ผลิตในประเทศไทย ด้วย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเสนอศบค. พิจารณา อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้มีการพิจารณาได้ครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งเชื่อว่า ศบค.จะยึดถือประโยชน์ของประเทศไทย เป็นหลัก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news