นายกฯเปิดโรงงานผลิตหน่วยการเก็บพลังงาน
นายกฯเปิดงาน Factory Grand Opening โรงงานผลิตหน่วยการเก็บพลังงาน หวังดึงเอกชนช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน Factory Grand Opening โรงงานผลิตหน่วยการเก็บพลังงาน ด้วยเทคโนโลยี semi solid แห่งแรกในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซิเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวรายงาน โดยหวังว่า โรงงานผลิตหน่วยการเก็บพลังงาน จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมด้านพลังงาน ของประเทศไทย ที่มุ่งไปสู่ทิศทางพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต ที่นำไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมตามหลักนิยมแนวคิด GSC ในการนำนวัตกรรมพลังงานมาสร้างสรรค์อนาคตรวมถึง การสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่สอดคล้องกับเวทีโลกได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้น ของประเทศไทย ในการเริ่มต้นพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมพลังงานที่ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ที่ขณะนี้ได้เร่งผลักดัน แผนพลังงานแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการกำหนดเป้าหมายในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ให้สอดรับกับทิศทางด้านพลังงานเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่สำคัญต้องสอดรับกับเป้าหมายยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ที่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ราคาของรถลดลง มีการเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น และการใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้ประสิทธิภาพยานยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้น การส่งเสริมให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมให้สอดคล้องรองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องการ สนับสนุนให้เกิดขึ้น และที่ผ่านมาได้กำหนดให้อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ไทยจะรักษาจุดยืนฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค และต่อยอดสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่เร็วขึ้น ด้วยการเป็นศูนย์กลางแห่งการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของอาเซียน จึงเชื่อมั่นว่า การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐภาคเอกชนและนักลงทุน จะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของประเทศและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากลได้อย่างเป็นรูปธรรม และทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำในวันนี้คือการทำเพื่ออนาคตต้องไม่หยุดยั้งแม้จะเจอสถานการณ์โควิด-19 แต่ต้องเดินหน้าในหลายกิจกรรมต่อไป เพื่อให้ประเทศชาติไป สู่ประเทศที่มีรายได้ที่เพียงพอและมีรายได้สูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ขอให้ทุกคนไม่หยุดยั้งที่จะคิดสิ่งดีๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในประเทศไทยต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news