พล.อ.ประวิตร ประชุม กอนช.ติดตามบูรณการแก้ปัญหาผักตบชวาขวางลำน้ำ ขอบคุณในความเสียสละ ขอให้ทุกกิจกรรมเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา ผ่านระบบ Video Conference โดยที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินการกำจัดผักตบชวา และวัชพืชงบประมาณปี2564 ของ 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง, กรมชลประทาน, กรมเจ้าท่า, คณะทำงานฯระดับจังหวัด และ กทม. ได้ดำเนินการจัดเก็บผักตบชวา (มิ.ย.64) รวมทั้งสิ้น 4,513,836 ล้านตัน และรับทราบผลการกำจัดผักตบชวาในลุ่มน้ำภาคกลางและภาคตะวันออก 19 จังหวัด โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม GISTDA (มิ.ย.64) จัดเก็บได้ทั้งสิ้น 511,912 ตัน และรับทราบผลการกำจัดผักตบชวาโดยชมรมคนริมคลอง ซึ่งกรมการปกครอง รับผิดชอบดำเนินกิจกรรม ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 7,653 ชมรม ดำเนินกิจกรรมแล้ว 20,719 กิจกรรม
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมขอบคุณในความเสียสละ และขอให้ดำเนินกิจกรรม อย่างต่อเนื่อง ต่อไป สำหรับเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ ซึ่งมีจำนวน 1,582 ลำ ได้ใช้จัดเก็บผักตบชวาแล้ว จำนวน 1,899 แหล่งน้ำ เป็นไปตามแผนงานโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงได้รับทราบความคืบหน้า การขอขึ้นทะเบียน สารชีวภัณฑ์ เพื่อนำมาใช้ในการกำจัดผักตบชวาโดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) ซึ่งจะต้องผ่านการประเมินประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ก่อนจึงจะนำไปใช้ในพื้นที่ได้ และคณะกรรมการฯยังได้เห็นชอบแนวทางการสนับสนุนการแปรรูปผักตบชวาเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วย
ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ระบุว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาผักตบชวา และวัชพืชอย่างต่อเนื่อง จึงได้เน้นย้ำ 5 หน่วยงานหลักต้องเร่งรัดกำจัดและการแปรรูป เพื่อนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดคุ้มค่าต่อประชาชนและชุมชน
พล.อ.ประวิตร เร่ง ศปฉ.พปชร. เกาะติดการช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ ส่งเลขาฯ พรรค จัดทัพ ส.ส.ลุยมอบถุงยังชีพ-ข้าวกล่องบรรเทาผลกระทบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีจำนวน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลได้ยกระดับมาตรการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดจากเดิม 10 จังหวัด เพิ่มเป็น 13 จังหวัด เพื่อให้การบริหารจัดการควบคุมสถานการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการ พปชร. และผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินสถานการณ์โควิด-19 (ศปฉ.พปชร.) พร้อมทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เร่งเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างทั่วถึง โดยการส่งมอบถุงยังชีพ และสิ่งที่เป็นความจำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งประสานส่งตัวผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษา ณ รพ.รัฐ-เอกชน รพ.สนาม และ Hospitel ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือผ่านศูนย์ ศปฉ.พปชร. เพื่อส่งต่อไปยังสาธารณสุขแล้วกว่า 1,000 ราย และในช่วงที่ผ่านได้มีการมอบถุงยังชีพ พร้อมกับดำเนินการดำเนินการส่งข้าวกล่องไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
ทั้งนี้ พปชร. พร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงในแต่ละชุมชนอย่างทั่วถึง โดยมีแผนที่จะขยายพื้นที่ในการมอบถุงยังชีพและข้าวกล่องให้ครอบคลุมชุมชนต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการ ร้านค้าและภาคเอกชนจำนวนมาก ที่ยังติดต่อ และพร้อมให้ความช่วยเหลือผ่าน ศูนย์ ศปฉ.พปชร. เพื่อเป็นศูนย์กลางการส่งต่อไปยังประชาชน และคลัสเตอร์ในพื้นที่ต่างๆ
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนและทีมสมาชิกพรรค พปชร. ได้เร่งส่งมอบถุงยังชีพ และข้าวกล่องไปแล้วหลายพื้นที่ทั้งในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และ พื้นที่เฝ้าระวัง ซึ่งหากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งความประสงค์ มาที่ ศปฉ.พปชร. ผ่านสายด่วน Call Center 02-939-1111
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news