Home
|
ภูมิภาค

โคราชติดโควิดเพิ่ม 312 ราย ดับ 3 ราย

Featured Image
โคราชติดโควิดเพิ่ม 312 ราย ดับ 3 ราย ระดมเจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยที่ รพ.สนามแห่งที่ 3 จับตา 9 คลัสเตอร์ใหญ่ระบาดทั้งจังหวัด

ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 3 ของ อ.เมืองนครราชสีมา ได้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลของ รพ.มหาราชฯ และเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครนครราชสีมา กว่า 30 คน ช่วยกันจัดเตรียมเสบียงอาหาร น้ำ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อไว้สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะเดินทางเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ภายหลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้อนุมัติให้ใช้หอพักพยาบาลแห่งนี้ทำเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 ของ อ.เมืองนครราชสีมา ต่อจากโรงพยาบาลสนามอาคารชาติชายฮอลล์ และอาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 นี้ จะใช้รองรับผู้ป่วยสีเขียว ที่ใกล้จะหายป่วยก่อนกลับบ้าน โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 264 เตียง ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้  ได้มีผู้ป่วยออกจาก รพ.สนามแห่งที่ 1-2 เข้ามาพักที่ รพ.สนามแห่งที่ 3 นี้แล้ว จำนวน 102 ราย

ขณะเดียวกันวันนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 312 ราย โดยแยกเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จำนวน 78 ราย ผู้ป่วยเข้ามารักษา จำนวน 27 ราย และผู้ป่วยสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จำนวน 207 ราย รวมผู้ป่วยสะสม จำนวน 5,391 ราย รักษาหายแล้ว จำนวน 2,249 ราย ยังรักษาอยู่ จำนวน 3,091 ราย และวันนี้มีเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว จำนวน 51 ราย

โดยผู้เสียชีวิต 3 ราย วันนี้ (28 ก.ค.64) ผู้เสียชีวิตรายที่ 49 เป็นผู้ป่วยลำดับที่ 1,980 ของจังหวัด เพศหญิง อายุ 91 ปี ชาว อ.สีคิ้ว มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 เข้ารับการรักษาที่ รพ.สีคิ้ว และส่งต่อไปที่ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา แต่ด้วยอายุที่มากจึงมีอาการทรุดลงต่อเนื่อง จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 ก.ค.64 เวลา 03.45 น.

ผู้เสียชีวิตรายที่ 50 เป็นผู้ป่วยลำดับที่ 5,008 ของจังหวัด เพศชาย อายุ 35 ปี ชาว อ.พระทองคำ มีภาวะอ้วน น้ำหนัก 112 กก. มีประวัติเดินทางมาจาก จ.ระยอง 22 ก.ค.64 เข้ารับการรักษาที่ รพ.พระทองคำ และส่งต่อ รพ.มหาราชฯ 24 ก.ค.64 อาการไม่ดีขึ้นจนเสียชีวิตเมื่อ 27 ก.ค.64 เวลา 10.45 น.

ผู้เสียชีวิตรายที่ 51 เป็นผู้ป่วยลำดับที่ 2,190 ของจังหวัด เพศชาย อายุ 50 ปี ชาว อ.ประทาย มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ความดัน มีประวัติเดินทางกลับจาก กทม. 13 ก.ค.64 เข้ารับการรักษาที่ รพ.ประทาย และส่งต่อมาที่ รพ.มหาราชฯ 14 ก.ค. 64 อาการทรุดลงต่อเนื่อง จนเสียชีวิตเมื่อ 28 ก.ค. 64 เวลา 04.00 น.

คลัสเตอร์ใหญ่ที่น่าจับตาเฝ้าระวัง 9 คลัสเตอร์ ได้แก่

1.คลัสเตอร์ครอบครัว ต.หนองแวง อ.เทพารักษ์ ซึ่งติดเชื้อมาจากการไปขายผักที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 27-28 มิ.ย.64 ก่อนที่จะมากระจายเชื้อกับครอบครัวและเพื่อนบ้านรวม 7 ราย มีกลุ่มเสี่ยงประมาณ 100 ราย

2.คลัสเตอร์โรงแรมโคราปุระ และร้านขวัญข้าว อ.เมือง รวมผู้ติดเชื้อจำนวน 27 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงนับพันราย

3.คลัสเตอร์ ต.หมื่นไวย อ.เมือง ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 4,593 ของจังหวัด ตรวจพบติดเชื่อเมื่อ 10 ก.ค.64 ก่อนที่จะกระจายเชื้อให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านอีก รวม 8 ราย

4.คลัสเตอร์สนามเปตอง อ.ด่านขุนทด ซึ่งเกิดจากผู้ป่วยรายที่ 1,832 ของ จ.นครราชสีมา รับเชื้อมาจากพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ก่อนที่จะแพร่เชื้อให้กับเพื่อนฝูงที่เล่นเปตองด้วยกัน รวม 17 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงอีกนับร้อยราย

5.คลัสเตอร์โรงงานชำแหละไก่ อ.โชคชัย ซึ่งติดเชื้อมาจากเพื่อนที่ไปสังสรรค์กันในพื้นที่ อ.ครบุรี เมื่อ 17 ก.ค.64 ก่อนที่จะมากระจายเชื้อให้กับพนักงานในโรงงานรวม 4 ราย มีกลุ่มเสี่ยงนับร้อยราย

6.คลัสเตอร์แคมป์คนงานในเขตอุตสาหกรรมนวนคร อ.สูงเนิน ตรวจพบติดเชื้อ 91 ราย สั่งปิดแคมป์ 1 เดือน แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงอีกนับร้อยราย

7.คลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้างถนนโค้ง อ.ปากช่อง โดยมีประวัติคนงาน 24 คน เดินทางไปทำงานที่ไซต์คนงานพระราม 3 กทม. เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 และติดเชื้อทั้งหมด ก่อนที่จะนำมากระจายเชื้อให้กับเพื่อนร่วมงานที่ อ.ปากช่อง รวมผู้ติดเชื้อ 41 รายและมีการสั่งปิดแคมป์คนงานกักตัวกลุ่มเสี่ยง 312 คน

8.คลัสเตอร์ตลาดเช้าเทศบาลตำบลปากช่อง อ.ปากช่อง พบผู้ติดเชื้อมากถึง 250 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงอีกเกือบ 2,000 คน

9.คลัสเตอร์โรงงานผลิตชิ้นส่วนโทรทัศน์ ต.จันทึก อ.ปากช่องติดเชื้อ 13 ราย มีกลุ่มเสี่ยงเกือบ 100 ราย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube