กมธ.พิจาารณางบฯจบแล้ว ปรับลดงบฯลงทั้งสิ้น 16,362 ล้านบาท ขณะ”ยุทธพงศ์” ลั่น จองกฐินอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี ร่วมกันแถลงถึงผลการพิจารณางบฯ ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายปี 65 ว่า ขณะนี้ กมธ. ได้พิจารณางบฯ 65 จบลงแล้ว โดยมีการปรับลดงบประมาณในชั้น กมธ.ลงทั้งสิ้นจำนวน 16,362 ล้านบาท จากคณะฝึกอบรมสัมมนาจำนวน 1,313 ล้านบาท คณะครุภัณฑ์ และไอซีที จำนวน 2,312 ล้านบาท คณะอนุกมธ.ที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง จำนนวน 1,120 ล้านบาท คณะอนุกมธ.จังหวัด และกลุ่มจังหวัด จำนวน 1,366 ล้านบาท คณะอนุกมธ.ท้องถิ่น จำนวน 417 ล้านบาท คณะอนุกมธ.ด้านการศึกษา จำนวน 2,474 ล้านบาท คณะอนุกมธ.แผนบูรณาการ 1 จำนวน 3,431 ล้านบาท คณะอนุกมธ.แผนบูรณาการ 2 จำนวน 566 ล้านบาท และคณะอนุกมธ.รัฐวิสาหกิจ จำนวน 2,451 ล้านบาท ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (2 สิงหาคม) จะเข้าสู่การพิจารณาแปรญัตติ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในการพิจารณางบประมาณปี 65 คือ กองทัพเรือ ที่ได้รับงบประมาณทั้งสิ้นจำนนวน 41,307 ล้านบาท แต่มีการปรับลดงบฯเพียง 1 รายการ คือ รถประจำตำแหน่ง พล.ร.อ. จำนวน 5 คัน รวม 8 ล้านบาทเท่านั้น ตนในฐานะ กมธ. ไม่สบายใจ เพราะมีความไม่เท่าเทียมกัน และ 2 มาตรฐาน โดยปี 65 กองทัพบกใหญ่ที่สุด มีกำลังพลมากที่สุด งบฯทั้งสิ้น 99,377 ล้านบาท ถูกปรับลดไป 1,100 ล้านบาท ขณะที่กองทัพอากาศ งบประมาณทั้งสิ้น 38,404 ล้านบาท ถูกปรับลดไป 510 ล้านบาท แต่กองทัพเรือ งบกว่า 4 หมื่นล้านบาท ถูกปรับลดแค่ 8 ล้านบาท สุดพิศดาล ยอมรับไม่ได้ และยังจะสู้ต่อไป เพราะมีทั้งเรือดำน้ำ เรือยกพลขึ้นบกที่ไม่ถูกแตะต้องเลย
ขณะที่กมธ.ฝ่ายรัฐบาล 36 คนใช้เสียงมากลากไป ปลัดบัญชีทหารเรือที่ควรมาชี้แจง ก็ไม่เคยมาและไม่ให้เอกสาร ซึ่งจะเข้าข่ายผิดมาตรา 144 หรือไม่ ฝ่ายค้านจึงวอล์คเอาท์ทั้งหมด ทั้งนี้ ตนจองกฐินไว้เลยว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมตัวไว้เลย เรื่องความไม่โปร่งใสของกองทัพ
นอกจากนี้ กองทัพเรือ ยังมีโครงการที่จะซื้ออากาศยานไร้คนขับ ฝ่ายค้านจึงเสนอว่า กองทัพเรือที่มีงบฯกว่า 4 หมื่นล้านบาท
ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนอภิปรายงบประมาณวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ช่วงวันแม่ 12 สิงหาคม จะต้องมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนมีการอภิปรายงบประมาณวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 18-20 สิงหาคม ยื่นหลังจากนั้นไม่ได้ เพราะเกรงว่าเมื่องบประมาณปี 65 ผ่านไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะชิงยุบสภาเลย เนื่องจากกระแสต่อต้านรุนแรงมาก ส่วนเรื่องที่จะยื่นอภิปรายนั้น จะมีเรื่องวัคซีน ขนาดล็อกดาวน์คนติดเชื้อ และคนเสียชีวิตนิวไฮทุกวัน
ทั้งนี้ ยังกล่าวว่า ชาวบ้านฝากมาถามอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ ว่า เป็นอธิบดีควบคุมโรคติดต่อ หรืออธิบดีกรมกระจายโรคติดต่อ พร้อมกล่าวถึงหนังสือด่วนที่สุดที่ สธ.0410.3/4255 จากกรมควบคุมโรค ถึงผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ขอนำเข้าวัคซีนจำนวน 10.9 ล้านโดส งบประมาณทั้งสิ้น 6.1 พันล้านบาท เพื่อซื้อวัคซีนยี่ห้อเดียว คือ ซิโนแวค คณะกรรมการกลั่นกลองเงินกู้ก้อนนี้ได้แย้งแล้วว่า ขณะนี้โควิดในประเทศไทยกลายพันธุ์แล้ว ให้พิจารณาจัดหาวัคซีนที่สามารถป้องกันได้ ซึ่งซิโนแวคมีข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพ แต่อธิบดีกรมควบคุมโรคบอกจัดหายี่ห้ออื่นไม่ได้ ตนขอเทียบที่อเมริกาเอาวัคซีนไฟเซอร์มาบริจาค คุณหาซื้อไม่ได้ แล้วอเมริกาเอาที่ไหนมาบริจาค แล้วแบบนี้ ฝ่ายค้านจะอภิปรายนายกฯในฐานะ ผอ.ศบค. และนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรงสาธารณสุขได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การอภิปรายเที่ยวนี้ 3 ป.ด้วย ค่อยๆเปิดไปเรื่อยๆ เพราะเที่ยวนี้ฝ่ายค้านมีทีเด็ด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
