ดีแทคขยายเวลาปิดศูนย์บริการชั่วคราวเพิ่มเติม ในพื้นที่สีแดงเข้มรวม 29 จังหวัด แนะนำลูกค้าใช้บริการช่องทางดิจิทัล – ดีแทคแอป
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ขอแจ้งขยายระยะเวลาปิดศูนย์บริการชั่วคราวเฉพาะสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า อีก 14 วัน ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ยกเว้นศูนย์บริการที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า ยังเปิดให้บริการตามปกติ ลูกค้าดีแทคยังคงสามารถใช้บริการจากจุดให้บริการอัตโนมัติได้ที่บริเวณที่ตั้งร้านค้า สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านที่ปิดให้บริการชั่วคราวได้ที่เว็บไซต์ของดีแทค https://www.dtac.co.th/help/store-locations.html
ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับบริการจากดีแทค ทางออนไลน์ทุกช่องทาง คือ
- ดีแทค แอปพลิเคชัน พร้อมให้ลูกค้าใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเช็คค่าใช้บริการ ชำระค่าบริการ เปลี่ยนโปรโมชันแพ็กเกจ สมัครโปรเสริม โดยดาวน์โหลดดีแทค แอป ได้จาก Google play Store สำหรับมือถือแอนดรอยด์ หรือ apple store สำหรับดาวน์โหลดแอปบน iPhone และอุปกรณ์ iOS
- ลูกค้าสามารถเลือกซื้อมือถือและสินค้าพร้อมบริการจัดส่ง ฟรี ผ่านดีแทค ออนไลน์ สโตร์ https://dtaconline.dtac.co.th/smartphones-tablets.html
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถสอบถามบริการได้ที่ ดีแทค Call Center 1678 ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
ดีแทคยังคงมุ่งมั่นให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการดีแทคอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ตามมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 เพื่อลดการออกนอกเคหสถานของประชาชนอันเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด – 19 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่ได้กำหนดเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news