“หมอระวี” จี้รบ.สั่งซื้อชุดตรวจ ATK กระจายทั่วประเทศฟรี ลดภาระประชาชน พร้อมสนับสนุนให้นักวิจัยในประเทศผลิตเอง
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์โควิดในประเทศไทยขณะนี้ ว่า การตรวจด้วยชุดตรวจรู้ผลเร็ว Antigen Test Kit หรือ ATK ในวิกฤตขณะนี้มีความจำเป็นต่อประชาชนอย่างมาก เพราะประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า เพราะการตรวจที่โรงพยาบาลประชาชนไม่สามารถเข้าถึงได้ ถ้าไม่มีสิทธิพิเศษ แม้จะยอมเสียเงินเพื่อตรวจ แต่คิวก็เต็มไปหมด เพราะฉะนั้น ATK เป็นสิ่งจะช่วยประเทศในการจัดการโควิด เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์เดลตามีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หากประชาชนรู้สึกว่ามีอาการก็จะสามารถตรวจดัวยตัวเองได้ ทำให้เชื้อไม่กระจายไปยังคนในครอบครัว
โดยนพ.ระวี ระบุว่า รัฐบาลประกาศให้ซื้อ ATK ผ่านร้านขายยา ซึ่งตนอยากฝากไปถึงรัฐบาลว่า รัฐควรสั่งซื้อ ATK ส่งให้กับรพ.รัฐ, รพ.เอกชน, รพ.ตำบล, อนามัย หรือทุกหน่วยงานที่สามารถตรวจได้ กระจายไปทั้งประเทศฟรี เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรับภาระเสียเงินไปซื้อ ATK มาตรวจเอง รัฐบาลมีงบพอเหลือเฟือที่จะดำเนินการเรื่องนี้ ส่วนการให้จัดจำหน่ายโดยร้านขายยา ก็เป็นคอขวด ในเรื่องราคาที่พอผ่านร้านขายยาราคาก็แพงขึ้น ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงไม่เปิดช่องทางการเข้าถึงประชาชนให้มากที่สุดโดยเร็ว เช่น ทางออนไลน์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่สำคัญคือ ราคาต้องไม่สูงขึ้น เพราะถ้ารัฐเปิดให้มีการจำหน่ายที่แพร่หลาย ก็จะเกิดการแข่งขัน ราคาก็ไม่ถึง 200 บาทต่อเทสแน่นอน
ทั้งนี้นพ.ระวี ระบุว่า ATK ไม่ใช่ชุดตรวจหาเชื้อโควิดที่ทำยาก รัฐบาลต้องดำเนินการสนับสนุนให้นักวิจัยในประเทศไทยผลิตเอง เพราะจะเหลือราคาเพียงแค่ 30-40 ต่อเทสเท่านั้น วันนี้วิกฤตที่เกิดขึ้น ยอดกว่า 2 หมื่นราย รัฐบาลต้องรีบแก้ปัญหาคอขวดให้ได้
ถึงแม้ว่าพรรคพลังธรรมใหม่จะอยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่า หลายๆเรื่อง การวางแผนของรัฐบาลบกพร่องอย่างมาก ฝ่ายนโยบายควรจะศึกษาให้ดีก่อนที่จะประกาศออกมาในแต่ละครั้ง เช่น เมื่อได้วัคซีนไฟเซอร์มา รัฐบาลใช้เวลาถึง 11 วัน กว่าจะเริ่มฉีดได้ แสดงว่า การจัดการยังอยู่ในรูปแบบเดิม การอ้างว่าติดวันเสาร์ อาทิตย์ ตนอยากทราบว่า เชื้อโควิดมันหยุดระบาดในวันเสาร์อาทิตย์หรือไม่ แผนของรัฐบาลไม่ได้ถูกวางแผนให้รอบคอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news